นโยบายแก้เกมเศรษฐกิจของจีน | มองจีนหลากมุม 10 พ.ย.2567
ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกซบเซา และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน จีนจะต้องใช้กำลังภายในเพียงใด เพื่อขึ้นแท่นครองแชมป์เศรษฐกิจโลก และไทยเราควรวางบทบาทอย่างไร
ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกซบเซา และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน จีนจะต้องใช้กำลังภายในเพียงใด เพื่อขึ้นแท่นครองแชมป์เศรษฐกิจโลก และไทยเราควรวางบทบาทอย่างไร
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ติดตามนโยบาย “ทรัมป์ 2.0” โดยเฉพาะผลกระทบต่อภาคเกษตรและอาหารโลก
วอชิงตัน 26 พ.ย.- จีนชี้ทั้งสหรัฐและจีนจะไม่ใช่ผู้ชนะในสงครามการค้า หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศว่า จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทุกรายการอีกร้อยละ 10 เมื่อเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2568 นายหลิว เผิงหยู่ โฆษกสถานทูตจีนประจำสหรัฐแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า สำหรับเรื่องภาษีที่สหรัฐจะเรียกเก็บจากจีนนั้น จีนเชื่อว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในตัวเอง และจะไม่มีผู้ใดเป็นฝ่ายชนะในการทำสงครามการค้าหรือสงครามภาษี โฆษกจีนระบุว่า จีนได้ดำเนินมาตรการกวาดล้างการค้ายาเสพติด ตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนบรรลุข้อตกลงกันเมื่อปีก่อน และได้แจ้งให้สหรัฐทราบถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ จึงเป็นการพิสูจน์ว่า ความคิดที่ว่าจีนปล่อยให้สารตั้งต้นของเฟนทานิล ซึ่งเป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรงทะลักเข้าไปในสหรัฐ เป็นสิ่งที่ขัดต่อข้อเท็จจริงและความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง โฆษกจีนกล่าวเรื่องนี้หลังจากนายทรัมป์เผยว่า จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทุกรายการอีกร้อยละ 10 จนกว่าจีนจะหยุดยั้งยาเสพติดโดยเฉพาะเฟนทานิลไม่ให้ทะลักเข้าไปในสหรัฐ.-814.-สำนักข่าวไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับวีโอเอไทย ระหว่างการเดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิส ว่ามีมาตรการรับมือผลกระทบนโยบายการขึ้นกำแพงภาษีของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะก้าวดำรงตำแหน่งในเดือนมกราคมนี้
“พิชัย” รมว.คลัง มองหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ สงครามการค้าจะรุนแรงมากขึ้น ไทยควรปรับโครงสร้างการลงทุนรองรับ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนสำคัญมากขึ้น เพราะรูปแบบการส่งออกเปลี่ยน หลายประเทศหันมาดูแลค่าเงิน แต่รัฐบาลคงไม่ไปแทรกแซง
เริ่มลั่นกลองรบแล้วสำหรับสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นสงครามการค้า ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนเป็นไฟชนวน จากที่มีแนวโน้มว่าอุตสาหกรรมมาแรงของจีนนี้จะผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของโลก ในที่สุดสหภาพยุโรปประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนลดหลั่นกันไป จากปัจจุบัน 10% เพิ่มขึ้นไปสูงสุด 38%
ปักกิ่ง 13 มิ.ย.- นักวิเคราะห์ในจีนมองว่า การที่สหภาพยุโรปหรืออียู (EU) จะเก็บภาษียานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) นำเข้าจากจีนในอัตราสูง อาจทำให้จีนตอบโต้ด้วยการมุ่งไปที่สินค้าเกษตรของอียู โจ มาเซอร์ นักวิเคราะห์ของทริเวียมไชนา (Trivium China) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในจีนให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่า จีนอาจตอบโต้อียูในภาคการบินและภาคการเกษตร โดยมีแนวโน้มว่าจะเป็นภาคการเกษตรมากกว่า เนื่องจากเป็นช่องทางที่จีนจะใช้ลงโทษประเทศที่สมาชิกแกนนำของอียูอย่างฝรั่งเศสและสเปน ขณะนี้จีนกำลังสอบสวนบรั่นดีนำเข้าจากฝรั่งเศส และมีสัญญาณว่าจีนอาจจะเปิดการสอบสวนเนื้อหมูนำเข้าจากอียูที่มีสเปนเป็นผู้ส่งออกหลัก อย่างไรก็ดี จีนเองกำลังหาทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงไม่น่าจะต้องการทำสงครามการค้าในวงกว้างกับอียูหรือประเทศใด มาตรการตอบโต้เท่าที่จีนเคยแสดงออกมาจึงมักเปิดทางให้คลี่คลายความตึงเครียด หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ส่วนเรื่องที่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของอียูจะเพิ่มภาษีสรรพสามิตกับอีวีนำเข้าจากจีนสูงสุดร้อยละ 38.1 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์รายนี้ไม่คิดว่า จะเป็นการปิดฉากอีวีจีนในยุโรป เพราะหลายปีที่ผ่านมาบริษัทจีนใช้เรื่องราคาจูงใจผู้ซื้อ หลังจากนี้จึงอาจต้องลดกำไรลงหรือผลักภาระไปให้ผู้ซื้อ นอกจากนี้ยังมีบริษัทจีนหลายแห่งสนใจย้ายฐานการผลิตบางอย่างไปยุโรปด้วย.-814.-สำนักข่าวไทย
“จุรินทร์” เผยประชุมอาเซียน ซัมมิท 26-28 ต.ค.นี้ บรูไนเตรียมส่งไม้ต่อให้กัมพูชา ระบุต้องผนึกกำลังรับมือสงครามการค้ากลุ่มประเทศมหาอำนาจ
นักเศรษฐกิจศาสตร์ แนะปรับตัวรองรับ สงครามการค้า สู่สงครามเทคโนโลยี ระบุ โจ ไบเด้นท์ รื้อฟื้นกลุ่ม CPTPP คาดจีน สหรัฐ เข้าร่วมกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ ธปท. ยอมรับกู้เงินเกินเพดานร้อยละ 60 หนี้สาธารณะต่อจีดีพี หากจำเป็นต้องแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,337.51 จุด ลดลง 7.60 จุด (-0.56%) มูลค่าการซื้อขาย 85,822.70 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยช่วงเที่ยงร่วงแรง 24.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,357.32 ล้านบาท ตามตลาดหุ้นในภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน ที่อาจจะนำไปสู่การทำสงครามการค้ารอบใหม่
ออสเตรเลียยืนยันว่า ไม่ได้ทำสงครามการค้ากับจีน และไม่คิดตอบโต้จีนที่เก็บภาษีข้าวบาร์เลย์นำเข้าจากออสเตรเลียในอัตราสูงถึงร้อยละ 80.5