กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – อธิบดีกรมชลประทานระบุ ส่งเจ้าหน้าที่สำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยาตรวจเขื่อนในภาคเหนือ หลังเกิดแผ่นดินไหวในเมียนมาซึ่งรับรู้แรงสั่นสะเทือนถึงไทย พบค่าอัตราเร่งสูงสุดอยู่ในเกณฑ์ไม่กระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนจึงขอให้ประชาชนในภาคเหนือมั่นใจได้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประมาณ 87 กิโลเมตร เมื่อเวลา 00.07 น. ของเมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) ขนาด 6.4 ที่ความลึก 3 กิโลเมตร กรมชลประทานได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยาไปตรวจสอบทันที
ผลการตรวจสอบค่าอัตราเร่งสูงสุดที่มีผลกระทบต่อเขื่อน ณ สถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวของกรมชลประทาน ในเขตจังหวัดเชียงรายพบว่า ความเร่งสูงสุดที่ตรวจวัดได้มีค่าเพียง 0.012 g ซึ่งค่าอัตราเร่งสูงสุดที่กรมชลประทานได้ออกแบบไว้ สามารถรองรับแผ่นดินไหว มีค่าไม่น้อยกว่า 0.2 g ดังนั้นค่าอัตราในครั้งนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงได้แก่ เขื่อนแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลและเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ เขื่อนกิ่วคอหมา รวมถึงเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง
อธิบดีกรมชลประทานยืนยันว่า กรมชลประทานออกแบบเขื่อนทุกแห่งให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวไว้ด้วยค่าที่สูงสุดของความเสี่ยงในพื้นที่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการตรวจสอบและติดตามข้อมูลทางสถิติของค่าความเร่งสูงสุดที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น รวมทั้งแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเขื่อนเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย