วอชิงตัน 12 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเผยว่า สหรัฐต้องการให้บรรดาผู้นำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีบทบาทมากขึ้นในการทำให้เมียนมาหวนกลับเข้าสู่เส้นทางระบอบประชาธิปไตยหลังเกิดเหตุรัฐประหารเมื่อปีก่อน ในขณะที่การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกับผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตันตามเวลาท้องถิ่น
นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ เจ้าหน้าที่ประสานงานภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะสนับสนุนให้ใช้วิธีเจรจาทางการทูตมากขึ้นในประเด็นเกี่ยวกับเมียนมาในระหว่างการประชุมกับบรรดาผู้นำของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ในพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐคาดหวังให้อาเซียนจริงจังกับการเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้านรัฐประหาร รวมถึงแนวทางทางการทูตเกี่ยวกับอนาคตของเมียนมา โดยที่สหรัฐจะยังคงมีบทบาทในการสนับสนุนและร่วมมือกับชาติพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน ทั้งยังระบุว่า สหรัฐเห็นว่าอาเซียนได้เริ่มลงมือแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งทูตพิเศษเข้าไปเจรจากับนายพลของเมียนมา แต่ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ก่อนหน้านี้ อาเซียนได้ตัดสินใจไม่เชิญพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจนกว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะยอมทำตามฉันทามติ 5 ข้อตามที่ตกลงไว้กับอาเซียนเมื่อปีก่อนเพื่อยุติสถานการณ์รุนแรงในประเทศนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารและจับกุมบรรดาผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงนางออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน.-สำนักข่าวไทย