fbpx

เมียนมาจะแถลงปิดคดี “ซู จี” 26 ธ.ค.นี้

ย่างกุ้ง 20 ธ.ค. – ศาลรัฐบาลทหารเมียนมาจะรับฟังแถลงปิดคดีนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ หลังดำเนินการพิจารณาคดีต่างๆ มาเป็นเวลานานถึง 18 เดือน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดไม่เผยนามที่ระบุว่า ศาลรัฐบาลทหารเมียนมาจะรับฟังการแถลงปิดคดีในข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่นอีก 5 ข้อหาที่เหลืออยู่ของนางซู จี วัย 77 ปี ในวันที่ 26 ธ.ค. นี้ ซึ่งข้อหาทุจริตแต่ละกระทงนั้นมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี โดยที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาหลังเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาคดีดังกล่าวเป็นลำดับต่อไป แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นวันที่ใด ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ นางซู จี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี เอเอฟพีระบุว่า นางซู จี ถูกกองทัพเมียนมาควบคุมตัวนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และถูกดำเนินคดีรวม 14 ข้อหา เช่น ข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่น ข้อหานำเข้าวิทยุสื่อสารวอล์กกี-ทอล์คกีโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19. -สำนักข่าวไทย

“มิน อ่อง หล่าย”เยือนรัสเซียอีกครั้งในรอบไม่ถึง 2 เดือน

เนปิดอว์ 5 ก.ย. – พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา เดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในรอบไม่ถึง 2 เดือน สื่อของทางการเมียนมารายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้เดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในวันนี้ โดยมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำด้านเศรษฐกิจ เยี่ยมชมสถานที่สำคัญ มหาวิทยาลัย และโรงงานต่าง ๆ ส่วนคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของเมียนมาก็จะเดินทางไปพบปะกับคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของรัสเซียเพื่อกระชับความร่วมมือของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ถูกประชาคมนานาชาติปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมการประชุมส่วนใหญ่ในนามตัวแทนของเมียนมา นับตั้งแต่กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ก่อนหน้านี้ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เคยเดินทางเยือนกรุงมอสโกในฐานะผู้นำประเทศเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปีก่อน ครั้งนั้นได้ประกาศความร่วมมือทางทหารร่วมกับรัสเซีย และเพิ่งเดินทางเยือนรัสเซียเป็นการส่วนตัวในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ทั้งนี้ รัสเซีย ซึ่งป็นแหล่งนำเข้าอาวุธรายสำคัญของเมียนมา เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่ออกมาสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาหลังเกิดเหตุรัฐประหาร ในขณะที่ประชาคมโลกต่างประณามรัฐบาลทหารเมียนมาเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารสังหารฝ่ายตรงข้าม. -สำนักข่าวไทย

รัฐบาลเงาเมียนมาจ่อตั้งกองตำรวจขวาง รบ.ทหาร

ย่างกุ้ง 7 มิ.ย. – รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือเอ็นยูจี ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมา ประกาศวันนี้ว่า รัฐบาลเงาจะจัดตั้งกองตำรวจเป็นของตนเองเพื่อขัดขวางการปกครองประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมาที่ก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน รัฐบาลเงาเมียนมาระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลเงาพร้อมจัดตั้งกองตำรวจของตนเองที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนเพื่อเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายปกครองบ้านเมือง การตัดสินใจเช่นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมาที่กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน ก่ออาชญากรรมสงคราม และทำร้ายประชาชน อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า รัฐบาลเงาเมียนมาจะจัดตั้งกองตำรวจเมื่อใด อย่างไร และจำนวนเท่าใด ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่สามารถติดต่อโฆษกของรัฐบาลเงาเมียนมาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในตอนนี้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเงาเมียนมา ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ได้จัดกิจกรรมระดมทุนมาตั้งแต่ปีก่อนเพื่อขัดขวางการยึดอำนาจของรัฐบาลทหารเมียนมา ไม่ว่าจะเป็นการคว่ำบาตรไม่จ่ายภาษี ไปจนถึงการระดมทุนในต่างประเทศด้วยการแกล้งเปิดขายบ้านพักของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย อีกทั้งยังเรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมในสงครามป้องกันประชาชนด้วยการก่อตั้งกองกำลังป้องกันประชาชน หรือพีดีเอฟ เมื่อปีก่อนเพื่อต่อสู้กับกองทหารเมียนมาในชนบท ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมากล่าวหาว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาเป็นกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งรวมถึงรัฐบาลเงาเมียนมาด้วย. -สำนักข่าวไทย

เผยสหรัฐอยากให้อาเซียนใช้วิถีการทูตในเมียนมามากขึ้น

วอชิงตัน 12 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเผยว่า สหรัฐต้องการให้บรรดาผู้นำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีบทบาทมากขึ้นในการทำให้เมียนมาหวนกลับเข้าสู่เส้นทางระบอบประชาธิปไตยหลังเกิดเหตุรัฐประหารเมื่อปีก่อน ในขณะที่การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกับผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตันตามเวลาท้องถิ่น นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ เจ้าหน้าที่ประสานงานภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะสนับสนุนให้ใช้วิธีเจรจาทางการทูตมากขึ้นในประเด็นเกี่ยวกับเมียนมาในระหว่างการประชุมกับบรรดาผู้นำของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ในพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐคาดหวังให้อาเซียนจริงจังกับการเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้านรัฐประหาร รวมถึงแนวทางทางการทูตเกี่ยวกับอนาคตของเมียนมา โดยที่สหรัฐจะยังคงมีบทบาทในการสนับสนุนและร่วมมือกับชาติพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน ทั้งยังระบุว่า สหรัฐเห็นว่าอาเซียนได้เริ่มลงมือแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งทูตพิเศษเข้าไปเจรจากับนายพลของเมียนมา แต่ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก่อนหน้านี้ อาเซียนได้ตัดสินใจไม่เชิญพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจนกว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะยอมทำตามฉันทามติ 5 ข้อตามที่ตกลงไว้กับอาเซียนเมื่อปีก่อนเพื่อยุติสถานการณ์รุนแรงในประเทศนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารและจับกุมบรรดาผู้นำพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงนางออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

“ไป่ ทาคน” ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว

ไป่ ทาคน นักแสดง นักร้องและนายแบบชื่อดังชาวเมียนมา วัย 25 ปี ที่ถูกตัดสินจำคุกจากการสนับสนุนการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว

อียูคว่ำบาตร จนท. รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่ม 22 คน

บรัสเซลส์ 22 ก.พ. – สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่ม 22 คน และบริษัทอีก 4 แห่งที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา อียูระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่ม 22 คน และบริษัทอีก 4 แห่งที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทหารเมียนมา 65 รายที่ถูกอียูขึ้นบัญชีอายัดทรัพย์สินและระงับวีซ่า รวมถึงบริษัททั้งหมด 10 แห่งที่ถูกขึ้นบัญชีเดียวกันนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาที่ถูกคว่ำบาตรในครั้งนี้มีรายชื่อของคณะรัฐมนตรีกระทรวงการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสารสนเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งและสมาชิกระดับสูงของกองทัพเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อของบริษัทพลังงานและเหมืองแร่ของรัฐบาลทหารเมียนมา 2 แห่ง และบริษัทเอกชนอีก 2 แห่งที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลทหารรวมอยู่ในบัญชีดังกล่าวด้วย อียูระบุว่า รู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในเมียนมาที่ยืดเยื้อจนส่งผลกระทบที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในระดับภูมิภาค และย่ำแย่ลงอย่างมากนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหาร ทั้งยังเน้นย้ำถึงข้อเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติการสู้รบ หยุดใช้กำลังข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรม และยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งหมดในทันที. -สำนักข่าวไทย

“คิริน” ประกาศถอนตัวจากตลาดเบียร์ในเมียนมาแล้ว

โตเกียว 14 ก.พ. – คิริน โฮลดิงส์ บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศวันนี้ว่า เตรียมปิดการดำเนินธุรกิจในเมียนมา หลังได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาขัดแย้งกับบริษัทหุ้นส่วนที่เป็นของกองทัพเมียนมา นับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อนจนทำให้สถานการณ์ของเมียนมาตกอยู่ในความวุ่นวาย คิรินระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า บริษัทจะเริ่มขั้นตอนการปิดธุรกิจในเมียนมา ซึ่งดำเนินการในรูปแบบกิจการร่วมค้ากับบริษัทเมียนมา อีโคโนมิก โฮลดิงส์ หรือเอ็มอีเอชแอล ของกองทัพเมียนมา โดยตั้งเป้าหมายจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้ แม้กำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ในการจัดการผลประโยชน์จากการร่วมทุน เช่น การขายธุรกิจให้แก่บริษัทบุคคลที่สาม ก่อนหน้านี้ คิรินได้หาทางยุติการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับเอ็มอีเอชแอลหลังกองทัพเมียนมาก่อเหตุยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน เนื่องจากมีข้อวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า คิรินจะปิดธุรกิจในบริษัทต่าง ๆ ที่ถือหุ้นอยู่ เช่น เมียนมา บริวเวอรี่ บริษัทท้องถิ่นของเมียนมาที่คิรินเข้าถือหุ้นในปี 2558 และมัณฑะเลย์ บริวเวอรี่ บริษัทกิจการร่วมค้ากับเอ็มอีเอชแอลที่ตั้งขึ้นในปี 2560 โดยที่คิรินถือหุ้นของทั้งสองบริษัทในสัดส่วนร้อยละ 51 และเอ็มอีเอชแอลถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49 นอกจากนี้ คิรินยังวางแผนที่จะขายหุ้นทั้งหมดให้แก่บริษัทที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทั้งนี้ การประกาศของคิรินถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทรายใหญ่ของญี่ปุ่นประกาศปิดกิจการร่วมค้าที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา รวมถึงการประกาศถอนตัวจากการทำธุรกิจในเมียนมา ซึ่งคาดว่าการตัดสินใจดังกล่าวของคิรินอาจส่งผลต่อการวางกลยุทธ์ของบริษัทอื่น […]

เผย “มิน อ่อง หล่าย” ยอมให้ทูตอาเซียนพบสมาชิกพรรคของซู จี

พนมเปญ 7 ก.พ. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาเผยวันนี้ว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ยอมให้ทูตพิเศษด้านเมียนมาของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน พบกับสมาชิกพรรคของนางออง ซาน ซู จี ในการเดินทางเยือนเมียนมาครั้งหน้า นายกาว กิม ฮูร์น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ยินยอมให้จัดการพบปะกันระหว่างนายปรัก สุคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชา ซึ่งเป็นทูตพิเศษด้านเมียนมาของอาเซียน กับสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางซู จี แต่ไม่ได้ระบุรายชื่อสมาชิกของพรรคดังกล่าว การให้คำมั่นดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการประชุมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ระหว่างนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา กับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เมื่อวันที่ 26 มกราคม อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีกัมพูชายอมรับว่า มีโอกาสน้อยมากในการเดินทางเยือนเมียนมาครั้งแรกที่นายปรัก สุคน จะได้พบกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจและถูกคุมขังนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารเมื่อ 1 ปีก่อน รวมถึงถูกตั้งข้อหาหลายคดีที่มีโทษจำคุกรวมกันสูงสุดเกือบ 150 […]

เผยพ่อแม่เมียนมาต้องตัดสัมพันธ์ลูกเพราะถูก รบ.ทหารกดดัน

ย่างกุ้ง 7 ก.พ. – ครอบครัวชาวเมียนมาต้องใช้หน้าหนังสือพิมพ์ของทางการประกาศตัดสัมพันธ์กับลูกหลานที่เข้าร่วมต่อต้านรัฐบาลทหารเฉลี่ยวันละ 6-7 ครอบครัวตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากรู้สึกหวาดกลัวต่ออำนาจของกองทัพเมียนมา สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประกาศดังกล่าวเริ่มมีมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน หลังกองทัพเมียนมา ซึ่งก่อเหตุยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วประกาศว่า จะยึดทรัพย์สินของผู้ต่อต้านรัฐบาลทหาร จับกุมผู้ให้ที่พักพิงแก่กลุ่มผู้ประท้วง รวมถึงการนำกำลังบุกตรวจค้นบ้านของประชาชนที่เข้าข่ายดังกล่าว ลิน ลิน โบ โบ (Lin Lin Bo Bo) วัย 26 ปี อดีตพนักงานขายรถยนต์ที่เข้าร่วมกองกำลังติดอาวุธเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาและเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกครอบครัวประกาศตัดสัมพันธ์ในประกาศทั้งหมด 570 ชิ้นบนหน้าหนังสือพิมพ์ของทางการ เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า แม่ของเขาจำเป็นต้องประกาศตัดสัมพันธ์กับเขาในฐานะลูก หลังถูกทหารเมียนมาบุกตรวจค้นบ้านเพื่อหาตัวเขา ทั้งยังระบุว่า เขาร้องไห้อย่างหนักในขณะที่กำลังอ่านประกาศดังกล่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ แม้เพื่อนของเขาจะพูดปลอบใจว่าครอบครัวไม่มีทางเลือกเพราะถูกบังคับให้ทำเช่นนั้นก็ตาม แต่เขาก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก หนังสือพิมพ์เดอะมิเรอร์ของทางการเมียนมาตีพิมพ์ประกาศแจ้งตัดสัมพันธ์ของบิดามารดาของลิน ลิน โบ โบ โดยมีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ขอประกาศตัดความสัมพันธ์ในฐานะลูกกับลิน ลิน โบ โบ เนื่องจากเขาไม่เคยเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ ขณะที่ทนายอาวุโสของเบอร์มา แคมเปญ ยูเค (Burma Campaign UK) องค์กรเอกชนที่รณรงค์ขับเคลื่อนประชาธิปไตยในเมียนมา […]

กลุ่มหนุนกองทัพเมียนมาถูกโจมตีด้วยระเบิดมือ ตาย 2 ราย

ย่างกุ้ง 2 ก.พ. – เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของเมียนมาระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้บาดเจ็บ 38 คน จากเหตุกลุ่มผู้สนับสนุนกองทัพเมียนมาที่ออกมาชุมนุมกันในพื้นที่ทางตะวันออกของเมียนมาถูกโจมตีด้วยระเบิดมือ ขณะที่กลุ่มผู้ต่อต้านรัฐประหารก็ออกมารวมตัวประท้วงทั่วประเทศเนื่องในวันครบรอบ 1 ปีรัฐประหารเช่นกัน เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมียนมา เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้บาดเจ็บ 38 คนจากเหตุโจมตีด้วยระเบิดมือ หลังชาวเมียนมาเสร็จสิ้นการชุมนุมสนับสนุนกองทัพเมียนมาและเดินทางกลับมาถึงเมืองท่าขี้เหล็กในรัฐฉาน ทางตะวันออกของเมียนมา ขณะที่สื่อท้องถิ่นของเมียนมารายงานว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของวันอังคารในรัฐฉาน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหลังเหตุรัฐประหารเมื่อปีก่อนค่อนข้างน้อย ขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ชาวเมียนมาในนครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าของเมียนมา และนครมัณฑะเลย์ ได้ออกมารวมตัวกันเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันอังคาร และปรบมือพร้อม ๆ กันเสียงดังกระหึ่ม ซึ่งเป็นสัญญาณของการสิ้นสุดการประท้วงเงียบเพื่อต่อต้านรัฐประหาร ชาวบ้านคนหนึ่งในนครมัณฑะเลย์ กล่าวว่า สมาชิกในครอบครัวของเขาต่างพากันปรบมือเสียงดัง ส่วนเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียงก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน อย่างไรก็ดี สื่อท้องถิ่นของเมียนมารายงานว่า มีชาวเมียนมา 10 คนถูกจับฐานเข้าร่วมการประท้วงปรบมือในนครย่างกุ้ง ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารเมียนมาได้สั่งให้ร้านค้าต่าง […]

ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจเมียนมาปีนี้โตแค่ 1%

ย่างกุ้ง 26 ม.ค. – ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1 ในรอบ 12 เดือนนับถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวถึงร้อยละ 18 ในปีก่อนจากการระบาดของโรคโควิด-19 และการก่อรัฐประหาร ธนาคารโลกกล่าวในรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะขยายตัวในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงความต้องการส่งออกเสื้อผ้า ก๊าซธรรมชาติ และการฟื้นตัวของธุรกิจก่อสร้าง แต่เน้นย้ำว่าการคาดการณ์ดังกล่าวตั้งอยู่บนสัญญาณเกิดใหม่ของภาคบริการและการผลิตที่มีเสถียรภาพในช่วงนี้ รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่รุนแรงขึ้นไปจากเดิมที่เป็นอยู่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า เมียนมากำลังตกอยู่ในสภาพเปราะบางอย่างมากจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและการระบาดหลายระลอกของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดอยู่ในระดับต่ำและมีขีดความสามารถด้านสาธารณสุขที่ไม่ดีนัก โดยมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนครบสองโดสเพียงร้อยละ 32 จากประชากรทั้งหมด 54 ล้านคน รายงานดังกล่าวยังคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้ว่างงานในเมียนมาจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 1 ล้านคนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ในขณะที่ลูกจ้างหรือแรงงานมีแนวโน้มที่จะได้รับค่าจ้างน้อยลง นอกจากนี้ ยังมีตัวชี้วัดว่าการลงทุนของภาคเอกชนในเมียนมาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนบางโครงการที่เริ่มดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงภาคพลังงาน กลายเป็นสิ่งที่เดินหน้าต่อไม่ได้ เนื่องจากอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนตัวและต้นทุนการนำเข้าพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ค่าเงินจ๊าดก็อ่อนค่าลงในตลาดสกุลเงินต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเตือนเมียนมามีองค์ประกอบสงครามกลางเมืองครบ

สิงคโปร์ 5 ม.ค. – กัมพูชา ซึ่งเป็นประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ประจำปีนี้ เตือนว่า เมียนมามีองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดสงครามกลางเมืองครบถ้วน ในขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา จะเดินทางเยือนเมียนมาในวันที่ 7 มกราคมนี้ นายปรัก สุคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาและทูตพิเศษอาเซียนว่าด้วยกิจการเมียนมา กล่าวระหว่างการบรรยายที่สถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค ซึ่งเป็นองค์กรวิชาการอิสระของสิงคโปร์ในวันนี้ว่า สถานการณ์ทางการเมืองและความมั่นคงในเมียนมากำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่วิกฤตด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ และมนุษยธรรม กัมพูชาคิดว่าเมียนมามีองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดสงครามกลางเมืองครบถ้วน เพราะขณะนี้เมียนมามีสองรัฐบาล มีกองกำลังแบ่งเป็นฝักฝ่าย ประชาชนเข้าร่วมในขบวนการอารยะขัดขืนต่อต้านรัฐประหาร และเกิดสงครามกองโจรทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี นายปรัก สุคน ระบุว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเดินทางเยือนเมียนมาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ว่าเป็นไปเพื่อสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลทหารเมียนมานั้นไม่เป็นความจริง แต่กัมพูชาต้องการกระตุ้นให้เกิดการแก้ไขสถานการณ์ของเมียนมาในทันที และยังคงให้ความสำคัญกับแผนฉันทามติ 5 ข้อที่เมียนมาตกลงไว้กับบรรผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนเมื่อปีก่อน นายปรัก สุคน ยังระบุว่า การเดินทางเยือนเมียนมาของผู้นำกัมพูชามีวัตถุประสงค์เพื่อปูทางไปสู่ความก้าวหน้าด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างครอบคลุมและสร้างความไว้วางใจทางการเมืองของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขามองว่า วิกฤตในเมียนมาส่งผลร้ายต่อความมั่นคงในระดับภูมิภาคของอาเซียน เช่น ภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น และความสามัคคี อย่างไรก็ดี กัมพูชาจะพยายามหาทางให้พลเอกอาวุโสมิน […]

1 2 3 13
...