ซิดนีย์ 21 ม.ค. – อังกฤษเตือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิ้ง ของจีน ว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรจะยืนหยัดร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และต่อต้านระบอบเผด็จการที่กำลังแผ่ขยายอำนาจมากที่สุดในช่วงนี้นับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเย็น
นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวในการประชุมระดับรัฐมนตรีของออสเตรเลียกับอังกฤษ (AUKMIN) ที่จัดขึ้นทุกปีในวันนี้ที่นครซิดนีย์ของออสเตรเลียว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรในโลกเสรีต้องตอบโต้ภัยคุกคามระดับโลกร่วมกัน เสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และต่อต้านผู้รุกรานรายใหญ่ที่ใช้นโยบายพึ่งพาทางเศรษฐกิจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งยังเตือนประธานาธิบดีปูตินให้สั่งยุติและถอยพลทหารออกจากยูเครนก่อนที่เขาจะทำผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่
นางทรัสส์ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมพร้อมด้วยนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ยังระบุว่า ผู้รุกรานรายใหญ่ของโลกกำลังแผ่ขยายอำนาจเผด็จการไปทั่วโลก จนเป็นเหตุให้ประเทศต่าง ๆ เช่น เบลารุส เกาหลีเหนือ และเมียนมา กลายเป็นชาติพันธมิตรที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลรัสเซียและจีน อังกฤษจะต้องร่วมมือกับชาติพันธมิตร เช่น ออสเตรเลีย อิสราเอล อินเดีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เพื่อต่อต้านผู้รุกรานเหล่านี้โดยเฉพาะในภูมิภาคแปซิฟิก เธอยังกล่าวด้วยว่า การที่จีนใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจต่อออสเตรเลียเป็นสัญญาณเตือนอังกฤษให้รู้ว่ารัฐบาลจีนกำลังใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเพื่อควบคุมประเทศอื่น ๆ
ในขณะเดียวกัน นายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียยังไม่มีแผนที่จะให้มีการสร้างฐานทัพอังกฤษในออสเตรเลียในขณะที่กองทัพเรืออังกฤษเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิก โดยที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาเงินทุนสนับสนุนระบบโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อคานอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นของจีน นอกจากนี้ แถลงการณ์ร่วมของออสเตรเลียกับอังกฤษยังระบุว่า คณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียกับอังกฤษรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการเสริมกองทัพของรัสเซียบริเวณพรมแดนติดยูเครน พร้อมทั้งสนับสนุนอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย