เกาหลีใต้เตรียมใช้ “เอไอ” แกะรอยผู้ป่วยโควิด

โซล 13 ธ.ค. – เกาหลีใต้เตรียมเปิดโครงการนำร่องใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ระบบจดจำใบหน้า และกล้องวงจรปิดกว่าหมื่นตัว เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แม้ว่าจะมีผู้ทักท้วงเกี่ยวกับข้อวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนตัว


เจ้าหน้าที่ของเมืองพูชอน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองอินชอนและกรุงโซลและมีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับที่สองรองจากกรุงโซล เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า โครงการนำร่องดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า และได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ทั้งยังระบุว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยลดความตึงเครียดและภาระงานหนักหน่วงของเจ้าหน้าที่ติดตามผู้ป่วยติดเชื้อในเมืองพูซอนที่มีประชากรกว่า 800,000 คน เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องแม่นยำ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างเอกสารความยาว 110 หน้าที่ทางการเมืองพูชอนยื่นต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศว่า โครงการนี้จะใช้ขั้นตอนการทำงานของปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อวิเคราะห์ภาพที่รวบรวมมาจากกล้องวงจรปิด 10,820 ตัว และติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด รวมถึงการตรวจสอบว่าพวกเขาสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวยังสามารถติดตามคนได้สูงสุดถึง 10 คนภายในเวลา 5-10 นาที ซึ่งช่วยร่นเวลาอย่างมากจากเดิมที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาราว 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเพื่อติดตามคน 1 คน


แม้โครงการดังกล่าวจะได้รับเสียงสนับสนุนเป็นวงกว้างจากระบบติดตามและค้นหาบุคคลได้อย่างรวดเร็ว แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและ ส.ส. ของเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งแสดงความวิตกกังวลว่า รัฐบาลเกาหลีใต้อาจนำข้อมูลที่เก็บไว้ไปใช้นอกเหนือวัตถุประสงค์ในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเมืองพูชอนแย้งว่า โครงการดังกล่าวไม่มีปัญหาข้อวิตกกังวลด้านความเป็นส่วนตัว เนื่องจากระบบจะเบลอภาพใบหน้าของบุคคลที่ไม่ใช่เป้าหมาย ส่วนสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือเคดีซีเอ ระบุว่า เทคโนโลยีดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายตราบใดที่ได้รับการนำมาใช้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายการควบคุมและป้องกันโรค. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง