อสมท 11 ก.ย.-สัมมนาสาธารณะ “AI โอกาส หรือความเสี่ยงต่อสังคมไทย” ผู้เชี่ยวชาญชี้บุคคลและองค์กร ควรเรียนรู้เพื่อนำ AI มาใช้ในฐานะผู้ควบคุม
สำนักข่าวอิสรา ร่วมกับ บมจ.อสมท จัดสัมมนาสาธารณะ หัวข้อ “AI โอกาส หรือความเสี่ยงต่อสังคมไทย” ณ ห้อง ออดิทอเรียม อาคารปฏิบัติการ โดยช่วงแรก ดร.หลิว จิงเฟิง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน สหรัฐอเมริกา บรรยายพิเศษ ชี้ว่า การเข้ามาของ AI มีทั้งคุณและโทษ สำคัญคือ บุคคลและองค์กร ควรให้ความสนใจ เรียนรู้ เพื่อนำ AI หรือปัญหาประดิษฐ์ มาสนับสนุนการทำงานของมนุษย์ และพัฒนาองค์กร และไม่ควรกลัว AI แต่ควรเรียนรู้ เพราะปัจจุบัน AI เข้าไปมีส่วนในทุกวงการแม้แต่วงการแพทย์ หรือใกล้ตัวในระบบขนส่งบางประเทศ กำลังมีการพัฒนาระบบแท็กซี่ ไร้คนขับแล้วเป็นต้น
ขณะภาคเอกชนที่ร่วมสัมมนา ชี้ว่า ตลาดแรงงานของไทยด้านดิจิทัล ซึ่งเกี่ยวข้องกับ AI มีอัตราการเติบโตช้า ดังนั้น ทั้งบุคคลและองค์กร ควรให้ความสนใจและศึกษา AI เพื่อให้มนุษย์ใช้ AI ในฐานะผู้ควบคุม และนำมาสนับสนุน แต่หากไม่พัฒนาตัวเอง และหันหลังให้ AI ก็อาจทำให้คนถูก AI เข้ามาแทนที่ และองค์กรพลาดโอกาสในการแข่งขันได้.-313.-สำนักข่าวไทย
จากนั้นในช่วงที่ 2 เป็นการสัมมนา สาธารณะ “AI โอกาส หรือความเสี่ยงต่อสังคมไทย” โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จากภาครัฐและเอกชน อาทิ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ชี้ว่า ในอนาคต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย คงต้องออกกฎหมาย กำหนดกรอบ ขอบเขตต่างๆ ของการใช้ AI เพื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างจริงจัง เช่น การสแกนใบหน้า ลักษณะบุคคล หรือแม้แต่การควบคุมดูแลข้อมูล เนื่องจาก AI เป็นการประมวลผลจากระบบความจำ หรือความถี่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความถูกต้องเสมอไป ดังนั้นคำถามที่ถามบ่อย และ AI ต้องตอบบ่อยๆ หาก ใครไปค้นเจอ และเชื่อทันที ก็อาจได้รับคำตอบที่มาจากความบ่อย แต่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น การใช้ข้อมูลจากระบบ AI จึงควรมีการตรวจสอบอีกครั้งจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ เสมอ เพื่อป้องกันความผิดพลาด