วอชิงตัน 9 ธ.ค. – ไฟเซอร์/ไบออนเทค เผยเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ผลการทดลองในห้องปฏิบัติการชี้ว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของไฟเซอร์ครบ 3 เข็มมีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่อาจทำให้วัคซีนเข็มที่สามกลายเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับเชื้อดังกล่าว
ไฟเซอร์/ไบออนเทค ระบุว่า ระดับแอนติบอดีหลังฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ครบสองเข็มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังคงมีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยรุนแรงได้ ส่วนผลการทดลองในห้องปฏิบัติการชี้ว่า ตัวอย่างเลือดของกลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามครบ 1 เดือนมีภูมิต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอยู่ในระดับเดียวกับการฉีดวัคซีนครบสองโดสที่มีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบครั้งแรกในจีน นอกจากนี้ ไฟเซอร์/ไบออนเทค ยังระบุว่า บริษัทอาจส่งมอบวัคซีนโควิดที่ปรับปรุงใหม่เพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะในเดือนมีนาคมปีหน้า หากมีความจำเป็น ขณะที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของไบออนเทคกล่าวว่า การป้องกันในขั้นแรกด้วยการฉีดวัคซีนครบสองโดสอาจไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ข้อมูลล่าสุดของไฟเซอร์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่ต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้นั้นเป็นเรื่องน่ายินดี ประชาชนคนใดที่มีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามควรรีบไปฉีดวัคซีนในทันที ส่วนนายอูเกอร์ ซาฮิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของไบออนเทค แนะนำให้ประเทศต่าง ๆ พิจารณาร่นการเว้นระยะของวัคซีนเข็มสองกับเข็มสามให้เร็วขึ้นเพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยอ้างถึงประเทศต่าง ๆ เช่น อังกฤษ ที่ตัดสินใจร่นการเว้นระยะฉีดวัคซีนเข็มสามให้เร็วขึ้นเป็น 3 เดือนหลังฉีดวัคซีนเข็มสอง จากเดิมที่ต้องเว้นระยะ 6 เดือน.-สำนักข่าวไทย