ซิดนีย์ 9 ส.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียประกาศมาตรการล็อกดาวน์เมืองแทมเวิร์ธ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบททางตะวันตกเฉียงเหนือของนครซิดนีย์ในวันนี้ หลังวิตกกังวลว่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อาจแพร่ระบาดจากนครซิดนีย์ไปยังเมืองดังกล่าว
นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียและมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ประกาศล็อกดาวน์เมืองแทมเวิร์ธที่เป็นเมืองเกษตรกรรมและตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครซิดนีย์ราว 414 กิโลเมตรเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังพบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งติดเชื้อโควิดจากนครซิดนีย์ ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในชุมชน 283 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่มี 262 คน ทั้งยังขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ไบรอนเบย์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของออสเตรเลียและตั้งอยู่ทางเหนือของนครซิดนีย์ราว 767 กิโลเมตร เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด หลังพบว่ามีชายคนหนึ่งเดินทางจากนครซิดนีย์ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ไปยังพื้นที่ดังกล่าว
รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์และมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก ระบุว่า ทางการจะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 11 คนเท่ากับเมื่อวานนี้ แม้ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ได้เดินทางไปทั่วชุมชนในขณะติดเชื้อ แต่นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า เขาจะประกาศยกเลิกมาตรการต่าง ๆ ในพื้นที่ชนบทของรัฐวิกตอเรียในวันนี้ อย่างไรก็ดี นครเมลเบิร์นจะยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้เป็นครั้งที่หกนับตั้งแต่พบการระบาดไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม ขณะที่รัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีนครบริสเบนเป็นเมืองเอก ระบุวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 4 คนหลังเข้าสู่วันแรกของการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 36,200 คน และผู้เสียชีวิต 939 คน
ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ล่าช้า โดยฉีดวัคซีนครบสองโดสให้แก่ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปได้เพียงร้อยละ 22 ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์ดิออสเตรเลียนระบุว่า คะแนนนิยมของนายมอร์ริสันร่วงลงเหลือร้อยละ 47 จากผลสำรวจครั้งก่อนที่มีร้อยละ 51 ซึ่งถือเป็นคะแนนต่ำสุดนับตั้งแต่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ในออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย