ซิดนีย์ 25 ก.ค.- รัฐนิวเซาท์เวลส์ในออสเตรเลียมีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในชุมชนรายวันสูงสุดเป็นอันดับสองในวันนี้ ท่ามกลางกระแสวิตกว่า ออสเตรเลียอาจเกิดการระบาดระลอกใหม่ หลังจากคนจำนวนมากชุมนุมประท้วงมาตรการล็อกดาวน์
นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกแย่มากที่คนจำนวนมากออกมาชุมนุมเมื่อวานนี้ หวังว่าจะไม่ทำให้การควบคุมการระบาดถอยหลัง แม้ว่าอาจเป็นไปได้ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้อยู่ที่ 141 คน ลดลงเล็กน้อยจาก 163 คนเมื่อวันเสาร์ และมีผู้ติดเชื้อในหอผู้ป่วยวิกฤต 43 คน เพิ่มขึ้นจาก 37 คนเมื่อวันก่อน การระบาดระลอกล่าสุดในรัฐนิวเซาท์เวลส์เริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน เป็นไวรัสสายพันธุ์เดลตา ยอดติดเชื้อสะสมระลอกนี้อยู่ที่ 2,081 คน
ด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันกล่าวระหว่างประชุมทางไกลกับสื่อว่า การจัดสรรวัคซีนให้เพิ่มเติมไม่ใช่หลักประกันว่ารัฐนิวเซาท์เวลส์จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในเร็ว ๆ นี้ เพราะต้องเป็นมาตรการล็อกดาวน์ที่มีประสิทธิภาพและใช้อย่างเหมาะสม พร้อมกับตำหนิการประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ในนครซิดนีย์ว่า ไร้ความยั้งคิดและทำร้ายตัวเอง ผู้นำออสเตรเลียเผยด้วยว่า สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์เพิ่มอีก 85 ล้านโดส แต่จะได้รับในปี 2565 และ 2566
มุขมนตรีรัฐต่าง ๆ กล่าวโทษรัฐบาลกลางว่า จัดสรรวัคซีนล่าช้า แต่มีหลายเสียงตำหนิรัฐนิวเซาท์เวลส์ว่าไม่ได้บังคับใข้มาตรการล็อกดาวน์อย่างจริงจัง เป็นเหตุให้ไวรัสสายพันธุ์เดลตาระบาดไปยังรัฐอื่น ผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐนี้อย่างน้อย 38 คนยังคงใช้ชีวิตตามปกติในช่วงติดเชื้อ ยอดผู้ติดเชื้อยังคงสูงทั้งที่ล็อกดาวน์นครซิดนีย์มา 4 สัปดาห์แล้ว และมีแนวโน้มจะต้องขยายต่อไปอีกหลังจากสิ้นสุดในวันที่ 30 กรกฎาคม.-สำนักข่าวไทย