ออสเตรเลียอนุมัติจัดตั้ง “อุทยานแห่งชาติเกรท โคอาลา”

นิวเซาท์เวลส์ 9 ก.ย. – รัฐบาลของรัฐนิวเซาท์เวลสื ในออสเตรเลียได้อนุมัติเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาให้มีการจัดตั้ง “อุทยานแห่งชาติ เกรท โคอาลา” หรือ “เกรท โคอาลา แนชันแนล พาร์ค” (Great Koala National Park) หลังจากที่กลุ่มภาคประชาสังคมได้รณรงค์เรื่องนี้มาเป็นเวลาหลายปี รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์จะเปลี่ยนพื้นที่ป่าของรัฐจำนวน 1,100,000 ไร่ และเชื่อมต่อกับอุทยานแห่งชาติที่มีอยู่เดิม เพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติขนาด 2,975,000 ไร่ ซึ่งอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางเหนือประมาณ 500 กิโลเมตร เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้มีการประกาศห้ามการตัดไม้ชั่วคราวในพื้นที่อุทยานที่เสนอจัดตั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงานประมาณ 300 ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าประชากรโคอาลาประมาณร้อยละ 15 ของประชากรโคอาลาทั้งหมดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง จะอาศัยอยู่ในอุทยานแห่งนี้ โคอาลาถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐควีนส์แลนด์ และเขตนครหลวงของออสเตรเลียในปี 2022 โดยกลุ่มองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมประเมินว่า โคอาลาอาจสูญพันธุ์จากป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ภายในปี 2050 หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ.-813.-สำนักข่าวไทย

เผยลูกกลมปริศนาพบที่ชายหาดในออสเตรเลีย เป็นเครื่องสำอาง

ชายหาดต่าง ๆ ในนครซิดนีย์ ของออสเตรเลียกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในวันนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่เก็บก้อนกลมสีดำที่เป็นมลพิษหลายพันก้อนที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาติดที่ชายหาด

ออสเตรเลียช่วยคนติดน้ำท่วมทางฝั่งตะวันออก

ออสเตรเลียช่วยประชาชน 152 คนที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศในวันนี้ หลังจากพากันหนีขึ้นไปยังที่สูงตามคำเตือนของทางการเรื่องฝนตกหนัก

อพยพหนีไฟป่าในออสเตรเลียที่กำลังร้อนจัด

เมลเบิร์น 1 ต.ค.- ไฟป่าหลายจุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ในรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ทำให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต้องอพยพออกจากเมือง ขณะที่รัฐทางฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียกำลังเผชิญกับอากาศร้อนจัด ผู้อาศัยใน 4 เมืองของกิปป์สแลนด์ พื้นที่ชนบทซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติและไร่องุ่นยอดนิยมในรัฐวิกตอเรีย ได้รับแจ้งให้อพยพออกจากพื้นที่โดยทันที ส่วนผู้อาศัยในอีก 3 เมืองและพื้นที่โดยรอบได้รับคำเตือนให้เตรียมพร้อมอพยพ ส่วนที่นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ถัดขึ้นไปจากรัฐวิกตอเรีย อุณหภูมิวันนี้แตะ 35.5 องศาเซลเซียส เป็นวันที่ 1 ตุลาคมที่ร้อนที่สุดนับจากปี 2562 ส่วนวันที่ 1 ตุลาคมที่ทำสถิติร้อนที่สุดคือปี 2547 อุณหภูมิแตะ 38.2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในเดือนตุลาคมของออสเตรเลียมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงสิ้นเดือน เนื่องจากช่วงกลางวันจะยาวนานขึ้นและใกล้เข้าสู่ฤดูร้อนที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

รัฐในออสเตรเลียห้ามตัดไม้เพื่อรักษาป่าให้โคอาลา

รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย ประกาศวันนี้สั่งห้ามตัดไม้ในป่า เพื่อรักษาพื้นที่ป่าไว้ให้กับโคอาลา โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาจำนวนโคโอลาไว้ไม่ให้สูญพันธุ์

น้ำท่วมฉับพลันทำหลายเมืองในออสเตรเลียถูกตัดขาด

ซิดนีย์ 14 พ.ย.- ฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันทำให้หลายเมืองที่อยู่ตอนในของรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกในวันนี้ ทางการต้องออกคำเตือนอพยพครั้งใหม่กับผู้อยู่อาศัยในย่านชนบท นายกรัฐมนตรีแอนโทนี แอลบาเนซี ของออสเตรเลียทวีตว่า น้ำท่วมฉับพลันทำให้เกิดสถานการณ์อันตราย รัฐบาลกลางกำลังประสานงานกับรัฐบาลท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดเรื่องการช่วยเหลือกู้ภัย รอยเตอร์ระบุว่า หลายพื้นที่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐวิกตอเรียเผชิญกับน้ำท่วมใหญ่ครั้งที่ 4 ของปีนี้ น้ำในแม่น้ำล้นตลิ่ง ซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมมาตลอดทั้งปี เมืองโมลองที่อยู่ห่างจากนครซิดนีย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 300 กิโลเมตรและมีชาวเมืองมากกว่า 2,000 คน เป็นหนึ่งในเมืองที่น้ำท่วมหนัก คลิปในสื่อสังคมออนไลน์เห็นตู้คอนเทนเนอร์และข้าวของในบ้านย่านใจกลางเมืองลอยน้ำ ส่วนที่เมืองยูโกวรา ชาวเมือง 800 คนได้รับคำสั่งให้ย้ายของขึ้นที่สูง หลังจากทางการเห็นว่าหากอพยพจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากน้ำท่วมฉับพลัน ขณะนี้ออสเตรเลียประกาศใช้คำเตือนน้ำท่วมในรัฐนิวเซาท์เวลส์มากกว่า 100 จุด และในรัฐวิกตอเรีย 84 จุด หลังจากสำนักอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า บางพื้นที่มีฝนตกในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามากกว่าปริมาณฝนตกทั้งเดือน ฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียเผชิญกับปรากฏการณ์ลานีญา 3 ปีติดต่อกัน เป็นเหตุให้มีฝนตกหนัก ขณะที่รัฐเซาท์ออสเตรเลียซึ่งที่อยู่ถัดเข้ามาทางตอนกลางก็มีฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงสุดสัปดาห์ หลายโรงเรียนต้องปิด และหลายครัวเรือนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียสั่งอพยพคนทางตะวันออกเฉียงใต้หนีภัยน้ำท่วม

ซิดนีย์ 25 ต.ค.- ออสเตรเลียเตือนว่า พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอีก เสี่ยงทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงอีก และได้สั่งอพยพคนครั้งใหม่ รัฐนิวเซาท์เวลส์แจ้งในวันนี้ว่า มีความชัดเจนมากว่ายังคงมีความเสี่ยงน้ำท่วมและอันตรายทั่วทั้งรัฐในช่วงหลายวันนี้ เนื่องจากแม่น้ำสายต่าง ๆ มีน้ำล้นตลิ่ง และเขื่อนมีน้ำเต็มความจุอยู่แล้ว หากมีฝนตกลงมาเพียงน้อยก็เสี่ยงทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมจากน้ำล้นตลิ่ง สำนักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า จะมีฝนตก 50 มิลลิเมตรทั่วภาคตะวันออกเฉียงใต้ในวันพุธและวันพฤหัสบดี และจะมีฝนตกไม่ต่ำกว่า 100 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่ของประเทศ และพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐแทสเมเนียที่เป็นเกาะ รัฐที่เสี่ยงภัยมากที่สุดคือรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ทางการได้แจ้งเตือนน้ำท่วม 209 จุดใน 2 รัฐนี้ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ของประเทศ ทางการแจ้งเตือนเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาให้ชาวเมืองแนร์ราไบร รัฐนิวเซาท์เวลส์อพยพออกจากเมือง เนื่องจากมีการระบายน้ำจากเขื่อนใกล้เคียงที่มีน้ำเต็มความจุ เมืองนี้มีประชากร 12,000 คน อยู่ห่างจากนครซิดนีย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 550 กิโลเมตร ส่วนเมืองกะนะดาที่อยู่ใกล้กัน ชาวเมืองต้องอพยพเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 12 เดือน ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์เห็นคนเดินลุยน้ำท่วมสูงระดับเอวอพยพข้าวของและสัตว์เลี้ยงออกจากบ้าน ส่วนคลิปในสื่อสังคมออนไลน์เห็นชาวเมืองพายเรือคายัคบนถนนที่กลายสภาพเป็นคลอง.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียเตรียมรับมือฝนหนัก-น้ำท่วม

ออสเตรเลียเตือนบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เตรียมการอพยพหนีน้ำท่วมในวันนี้ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย เตือนอาจเกิดน้ำท่วมใหญ่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่เคยประสบภัยน้ำท่วมรุนแรงไปเมื่อเดือนมีนาคม

เมืองในออสเตรเลียที่เสี่ยงน้ำท่วมเตรียมรับมือฝนหนัก

ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเตรียมพร้อมด้วยการสร้างคันกั้นน้ำและวางกระสอบทรายที่บ้านเรือนของตนในวันนี้ก่อนที่จะมีฝนตกหนักเพี่มเติม แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะกล่าวว่า พายุที่จะพัดเข้าออสเตรเลียจะไม่รุนแรงเท่ากับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ออสเตรเลียยังคงเตือนน้ำท่วมแม้ฝนตกน้อยลงแล้ว

ซิดนีย์ 9 ต.ค.- รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียยังคงเตือนภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ แม้ว่าฝนที่ตกหนักในช่วงหลายวันมานี้เริ่มซาลงแล้วในวันนี้ สำนักงานบริการเหตุฉุกเฉินของรัฐนิวเซาท์เวลส์แถลงวันนี้ว่า ฝนที่ตกหนักในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นได้ทำให้เกิดน้ำท่วม สำนักงานได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือ 343 ครั้ง และได้ออกปฏิบัติการช่วยเหลือ 21 ครั้ง พร้อมกับมีคำสั่งอพยพหนีน้ำท่วมกับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ตั้งแคมป์ สวนสาธารณะที่เป็นแหล่งพักผ่อนช่วงวันหยุด และย่านกรอสนอสพอยต์ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครซิดนีย์ สำนักงานเตือนว่า 80 พื้นที่ทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์เสี่ยงเกิดน้ำท่วม และอาจเกิดลมแรงตามชายฝั่งเนื่องจากพายุเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ฝั่งมากขึ้น หลายพื้นที่ริมชายฝั่งรวมทั้งนครซิดนีย์ที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งเพราะพื้นที่เหล่านี้รับน้ำฝนไว้มาก เขื่อนและแม่น้ำมีระดับน้ำเกือบเต็มแล้ว ฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ทำให้มีฝนตกมากกว่าปกติ นครซิดนีย์เพิ่งมีฝนตกหนักที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการจดบันทึกในปี 2128 หรือเมื่อกว่า 400 ปีก่อนเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

รัฐนิวเซาท์เวลส์ในออสเตรเลียเตรียมรับมือน้ำท่วม

รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย กำลังจะเผชิญกับฝนตกอย่างหนักในวันเสาร์และอาจจะเกิดน้ำท่วมได้ ในขณะที่ประกาศเตือนภัยเกี่ยวกับสภาพอากาศเพิ่มเป็น 64 ฉบับแล้ว และเจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่และหลีกเลี่ยงการเดินทาง

เตือนตะวันออกของออสเตรเลียระวังน้ำท่วม

ซิดนีย์ 4 ก.ย.- สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียแจ้งเตือนพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกให้ระวังสภาพอากาศเลวร้ายและน้ำท่วม หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ไปเมื่อเดือนมีนาคม สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียประกาศเตือนภัยสภาพอากาศเลวร้ายจากกระแสลมแรงทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยพยากรณ์ว่าอาจมีลมกระโชกสูงสุดถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตลอดทั้งวันอาทิตย์นี้ ขอให้ประชาชนหาที่กำบังด้วยการอยู่ภายในอาคาร ห้ามอยู่ใต้ต้นไม้อย่างเด็ดขาด เพราะอาจได้รับอันตรายจากต้นไม้และเสาไฟฟ้าล้ม และให้ประกาศเตือนภัยน้ำท่วม 4 ฉบับยังคงมีผลบังคับใช้ ส่วนรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่อยู่ถัดลงไปทางใต้ สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียให้ประกาศเตือนภัยน้ำท่วม 8 ฉบับยังคงมีผลบังคับใช้ และเตือนภัยสภาพอากาศเลวร้ายจากคลื่นรุนแรงริมชายฝั่งในพื้นที่ที่เคยได้รับความเสียหายหนักจากวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในเดือนมีนาคม น้ำท่วมครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน และต้องอพยพเป็นจำนวนมากในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐควีนส์แลนด์ที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 1 และอันดับ 3 ของประเทศ เนื่องจากน้ำท่วมใจกลางเมือง ซัดบ้านเรือนเสียหาย และทำให้ไม่มีไฟฟ้าใช้ กองทัพต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือผู้ติดค้างอยู่บนหลังคาบ้าน ขณะที่ผู้ขับขี่ยวดยานและสัตว์ติดค้างอยู่บนสะพานที่ถูกตัดขาดเพราะน้ำท่วม.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 7
...