นิวยอร์ก 19 พ.ย.- เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลังจากคนในครอบครัวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเข้าไปมีส่วนร่วมในระหว่างการถ่ายโอนอำนาจก่อนทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า
ภาพถ่ายอย่างเป็นทางการระหว่างที่นายทรัมป์พบหารือกับผู้นำต่างประเทศคนแรกคือนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นที่นครนิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดีจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขนานใหญ่ เมื่อเห็นนางอิวังกา ทรัมป์ บุตรสาวคนโตของเขานั่งอยู่ในวงสนทนาด้วย นอกจากนี้ยังมีภาพเธอและนายเจเรด คุชเนอร์ สามีนักธุรกิจของเธอสนทนาอย่างออกรสกับคณะของนายอาเบะที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ ทั้งนี้แม้ทรัมป์ยืนยันว่า บุตรที่โตแล้วทั้งสามคนจะไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการในคณะรัฐบาลของเขา แต่การที่เขาจะให้ลูก ๆ สานต่ออาณาจักรธุรกิจทำให้มีเสียงเตือนเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ขณะที่นายคุชเนอร์ บุตรเขยของเขาก็ตกเป็นข่าวว่าเป็นผู้ชักใยกระบวนการถ่ายโอนอำนาจ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์อ้างแหล่งข่าวว่า นายคุชเนอร์ได้หารือกับทนายความเรื่องจะเข้าร่วมในคณะรัฐบาลพ่อตาโดยไม่ขัดต่อกฎหมายปี 2510 ที่ห้ามญาติโดยสายเลือดหรือโดยการแต่งงานของประธานาธิบดีรับตำแหน่งที่ได้รับเงินเดือนในหน่วยงานรัฐบาลกลาง
แซม เอบรัมส์ อาจารย์รัฐศาสตร์ วิทยาลัยแซราห์ลอว์เรนซ์ในนิวยอร์กมองว่า การให้ครอบครัวเข้ามามีบทบาทอย่างไม่เป็นทางการไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐ แต่การที่ทรัมป์ปล่อยให้คนในครอบครัวแสดงบทบาทสำคัญก่อนรับตำแหน่งและก่อนมีคณะรัฐบาลถือเป็นความผิดพลาด.-สำนักข่าวไทย