กทม. 1 พ.ค.-สธ.เผยวันนี้พบอัตราเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุด 21 ราย อันดับ 1 คือติดเชื้อจากคนในครอบครัว และเพื่อน แนะต้องเว้นระยะห่าง
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า หลังจากฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เมื่อวานนี้ จำนวน 65,464 โดส แบ่งเป็นเข็มที่1 จำนวน19,474 โดส และเข็มที่2 อีก 45,990 โดส รวมแล้วการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-30เม.ย.2564 รวม 1,477,078 โดส สำหรับยอดติดเชื้อรายใหม่ของประเทศไทย อยู่ที่ 1,891 คน ติดเชื้อในประเทศ จากการเข้ารับการตรวจจำนวน 1,799 และจากการค้นหาเชิงรุก 85 คน มาจากต่างประเทศ 7 ราย ทำให้ยอดรวมติดเชื้อสะสม จำนวน 38,181 ราย รักษาหายแล้ว 10,649 ราย แต่ยังรักษาอยู่ 28,745 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อาการหนัก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 270 ราย ประมาณ 1 ใน 3 อยู่ที่กรุงเทพมหานคร และอีก 40 คน อยู่ที่สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี มีผู้อาการหนักอีก 829 ราย เฉพาะช่วง 3-4 วันตัวเลขผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น และวันนี้ทำสถิติสูงสุด เสียชีวิต 21 ราย
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/05/25-1024x597.jpg)
ขณะที่การวิเคราะห์ตัวเลขรายสัปดาห์ พบผู้ป่วยรายใหม่ 14,000 คน หากเทียบกับสัปดาห์ก่อน 12,000 คน ถือว่าสัปดาห์นี้ยังเป็นช่วงขาขึ้น จากมาตรการงดรับประทานในร้านอาหาร จะทำให้กลุ่มก้อนการแพร่ระบาดลดน้อยลง เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า การระบาดเกิดจากกลุ่มก้อนที่ไปรับประทานอาหารร่วมกัน นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาการหนัก เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน เป็นต้นมา มาตรการที่จะใช้ในการป้องกันการเสียชีวิต ดังนั้น วัคซีนคือทางออก ทำให้เจ็บป่วยไม่รุนแรง รวมทั้งยาและการเข้ารับการรักษา การวิเคราะห์และวินิจฉัยโรคให้เร็ว ทำให้อัตรการเสียชีวิตลดลงดังนั้นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องคอยสังเกตุอาการหากมีอาการต้องเข้ารับการรักษาทันที
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 21 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 10 ราย ชลบุรี สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย และ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ เชียงราย ปทุมธานี เพชรบุรี อีก จังหวัดละ 1 ราย แบ่งเป็น ชาย 9 ราย และหญิง 9 ราย ปัจจับเสี่ยงสำคัญ จากการสอบสวนโรค พบว่า ร้อยละ76 ติดจากคนในครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน ที่เป็นผู้ป่วยยืนยันมาก่อน และกรณีผู้ป่วยติดเตียง ที่ติดจากผู้ดูแล ขณะที่พบว่าในเดือนเมษายน ใน กทม.พบผู้ติดเชื้อครบทุกเขต ทั้ง 50 เขต มี 73 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ไม่รวม กทม.และปริมณฑล และพบเปอร์เซ็นติดจากคนในครอบครัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น การอยู่กับบุคคลในครอบครัวและเพื่อน ถึง 54% ต้องเว้นระยะห่าง เพราะบางคนไม่แสดงอาการ พร้อมย้ำว่า หากรู้ว่าสัมผัสเสี่ยงสูง อย่าเดินทาง ให้กักตัว 14 วัน หรือตรวจเชื้อ และหากเริ่มมีอาการให้แจ้งรับรักษาทันที
ยืนยันว่า สธ.มีความพร้อมเรื่องยารักษา และเตียง เพื่อให้ได้รับรักษา ยาเป็นหนึ่งตัวที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้สำรอง เพื่อกระจายยา ไปยัง รพ.หลักและเครือข่าย ขณะนี้กระจายยาฟาวิพิราเวียร์ไปแล้ว 765,600 เม็ดแล้ว และสำรองอีก 2.5 ล้านเม็ด เพียงพอต่อการรักษาอีกหลายหมื่นคน ยืนยันมียาเพียงพอ.-สำนักข่าวไทย