คลัสเตอร์โรงงานเพชรบุรี ติดเชื้อแล้ว 700 รอผลอีก 3 พันคน

เพชรบุรี 21 พ.ค.- คลัสเตอร์โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ใน อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พบติดเชื้อโควิด-19 กว่า 700 ราย รอผลตรวจอีกกว่า 3,000 คน โรงงานไม่ทอดทิ้งพนักงาน ส่งอาหารครบ 3 มื้อ พร้อมประกาศปิด 14 วัน ตั้งแต่วันนี้ (21 พ.ค.)


คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรีเร่งหามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดจากอาคารโรงงาน 9 ของบริษัทแคลคอมพ์ อิเล็กทรอนิกส์ อำเภอเขาย้อย โดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดกว่า 700 คน และรอผลตรวจอีกกว่า 3,000 คน โรงงานแห่งนี้มีแรงงานกว่า 10,000 คน เป็นแรงงานเมียนมา 6,600 คน และคนไทย 5,900 คน ซึ่งผู้ประกอบการขอหยุดกิจการ เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้ (21 พ.ค.) เป็นต้นไป ไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าออก และสั่งปิดพื้นที่ 2 ตำบลในอำเภอเขาย้อยคือ ตำบลสระพัง และบางเค็ม ซึ่งเป็นหอพักของแรงงานไทยประมาณ 6,000 คน โดยโรงงานดูแลจัดส่งอาหารทั้ง 3 มื้อ และเช้าวันนี้เพชรบุรีจะได้รับรถชีวนิรภัยพระราชทานตรวจหาเชื้อให้กับชาวบ้านที่อยู่รอบโรงงานและใน 2 ตำบลดังกล่าว

บริษัทแคลคอมพ์ อิเล็กทรอนิกส์ ได้ใช้พื้นที่โรงงานที่ 11 เปิดเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลผู้ป่วยผู้ติดเชื้อและผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และกำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่ 2 ตำบลในอำเภอเขาย้อย คือตำบลสระพัง และตำบลบางเค็ม เนื่องจากมีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยควบคุมแรงงานที่เป็นคนงานของบริษัทแคลคอมพ์ ห้ามออกนอกเคหสถาน ทั้งนี้ โรงงานจะนำส่งอาหารให้แรงงาน 3 มื้อ ส่วนแรงงานที่ทำงานอยู่ในโรงงานอื่นจะต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงาน ก่อนเข้าออกพื้นที่ทั้ง 2 ตำบล สำหรับผู้ใช้แรงงานคนไทยที่อาศัยนอกพื้นที่เพชรบุรี โดยอยู่ในจังหวัดราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สำนักงานควบคุมโรคติดต่อจะดำเนินการส่งรายชื่อให้กับ 3 จังหวัดดังกล่าวเพื่อติดตามเฝ้าระวัง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป ในส่วนคนงานชาวไทยที่มีที่อยู่อาศัยในจังหวัดเพชรบุรี จะมีเจ้าหน้าที่ และ อสม.ไปตรวจให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว


ทั้งนี้ จังหวัดเพชรบุรี ได้เตรียมเตียง พร้อมสถานที่กักกันตัวผู้ติดเชื้อ และกลุ่มเสี่ยงสูง โดยจัด Local quarantine ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งจะมีอาหาร 3 มื้อ อุปกรณ์การอำนวยความสะดวกอย่างครบถ้วน ส่วนผู้ที่กักตัวอยู่ที่บ้านทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้สนับสนุนอาหาร ทุกฝ่ายพร้อมเร่งกำจัดจุดที่แหล่งแพร่เชื้อ

ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ได้สั่งการให้เร่งค้นหา ติดตามทุกกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้มีความมั่นใจทุกพื้นที่ชุมชน รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ในเขตเขาย้อย ให้สุ่มตรวจเพื่อป้องกันควบคุมโรคไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง