สธ. 8 พ.ค.-กระทรวงสาธารณสุข แจงประเด็นคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคในผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง เพื่อขยายโอกาสให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน “หมอพร้อม” จะได้แอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของประเทศ
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อกังวลประชาชนหลังคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค ในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีสุขภาพดี ซึ่งข้อมูลการวิจัยของประเทศจีนพบว่ามีความปลอดภัยและกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ขอชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าว เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อลดอัตราการติดเชื้อ จำกัดวงการแพร่ระบาด ลดการป่วยที่รุนแรง และการเสียชีวิต ระหว่างรอวัคซีนจากแอสตราเซเนกา สำหรับฉีดให้กับคนในประเทศ นอกจากนี้รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่เกษียณอายุ แต่ยังคงปฏิบัติงานนับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สามารถฉีดซิโนแวคได้เช่นกัน
นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน แพลตฟอร์ม “หมอพร้อม” จะได้รับการฉีดวัคซีนจากแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของประเทศ เพราะจะมีวัคซีนชนิดนี้ถึง 16 ล้านโดสในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. 2564 ยกเว้นในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ไม่มีวัคซีนแอสตราเซเนกา มีแต่วัคซีนของซิโนแวค การฉีดขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ ส่วนวัคซีนอื่นๆ ที่รัฐบาลพยายามจัดหามานั้นเพื่อให้เกิดความครอบคลุมทุกกลุ่มประชากรให้มากที่สุด
“ขอให้ประชาชน มั่นใจว่าวัคซีนทุกชนิดที่นำมาฉีดให้กับคนในประเทศนั้นมีความปลอดภัย เนื่องจากต้องมีการศึกษาข้อมูลทางวิชาการ มีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาก่อนนำมาฉีดให้กับคนในประเทศมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด 19 และสิ่งที่คำนึงสูงสุดคือความปลอดภัยของประชาชนจากการฉีดวัคซีน” นายแพทย์โสภณกล่าว .-สำนักข่าวไทย