บน.6 (2 ต.ค.) – “สมศักดิ์” เผยอาการ 2 นักเรียนเหยื่อรถบัสทัศนศึกษา แอดมิต รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ยังน่าห่วง พร้อมส่งทีมจิตแพทย์ประกบเด็กเห็นเหตุการณ์-ครอบครัว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้รถบัสนักเรียนทัศนศึกษา จากอุทัยธานี ว่า ผู้ที่บาดเจ็บสาหัส ขณะนี้อยู่ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี 1 คน มีแผลไหม้ตามร่างกายประมาณ 11% และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 2 คน ซึ่งเด็กที่อยู่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์มีอาการหนักกว่า คือ มีแผลไหม้ตามร่างกาย 13% 1 คน อีก 1 คน 20-30 % ซึ่งขณะนี้มีการประสานงานกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ว่า ประเทศจีนจะมีการ ส่งบัวหิมะที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเข้ามาช่วย ในเรื่องของการรักษาแผลจากไฟไหม้
ขณะเดียวกันในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้มีการส่งนักจิตแพทย์และนักจิตวิทยาทั้งหมดจำนวน 71 คน ในการเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งตัวเด็กและครูผู้ประสบเหตุ รวมถึงครอบครัวและผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์
โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่อยู่ที่ จังหวัดอุทัยธานีจำนวน 22 คน และอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ 25 คน ซึ่งจะเดินทางไปพร้อมกับการส่งร่าง ผู้เสียชีวิต และกระจายตัวไปช่วยในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีต่อไป ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะทำงานต่อในการให้ความช่วยเหลือแนะนำ โดยเฉพาะทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ใน ICU ขณะนี้ คน ที่อยู่สถาบันสุขภาพเด็กสามารถพูดคุยสื่อสารได้แล้ว เมื่อวานมีอาการเครียดแต่วันนี้อาการดีขึ้น แต่ในส่วนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ยังอาการหนักอยู่ เพราะมีแผลตามร่างกาย จำนวนมากและเรื่องสายตาที่มองเห็นแบบเบลอ เพราะได้รับสารพิษ และเกิดการเผาไหม้ต่างๆ ซึ่งยังไม่สามารถประเมินอะไรได้
ด้านพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวว่า ทั้ง 22 ศพ ทางสถาบันนิติเวชได้ตรวจอัตลักษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรายสุดท้ายที่คุณแม่ ต้องการมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่ความจริงได้พิสูจน์ผ่านทางพี่สาวทั้งหมดแล้ว คาดว่าเวลา 15.00 น. วันนี้ การตรวจอัตลักษณ์ทั้งหมดจะเสร็จสิ้น จากนั้นประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรถขบวน เพื่อนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับภูมิลำเนา ส่วนคนขับตอนนี้ได้ควบคุมตัวอยู่ที่ สถานีตำรวจภูธรคูคต เพื่อทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งได้เข้ามอบตัวตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากส่งเจ้าหน้าที่ไปกดดัน แต่ต้องสอบสวนในรายละเอียดทั้งหมดก่อน ขณะเดียวกัน พิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างการตรวจสอบรถคันที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากนี้จะนำไปวางมาตรฐานและกฎเกณฑ์ รวมถึงมีมาตรการเรื่องการตรวจสอบรถให้ฝ่ายปกครอง ขนส่ง เอกชน และส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเคร่งครัด.314.-สำนักข่าวไทย