“สมศักดิ์” ปัดอยู่เบื้องหลัง “สามารถ” แนะอย่าเบี่ยงประเด็น

กทม. 30 ต.ค. –“สมศักดิ์” โต้ “ปิยะ” ปัดอยู่เบื้องหลัง “สามารถ” ไล่ไทม์ไลน์คนละช่วงเวลา มั่นใจเป็นเทวดาศูนย์เปอร์เซ็นต์ แนะอย่าเบี่ยงประเด็นให้พ้นตัว ชี้ตอนทำงานร่วมกันไม่มีอะไรเสียหาย ห่วงหว่านแหรู้จักใครก็ผิดไปหมด


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ พาดพิงการแต่งตั้งนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เชื่อมโยงเทวดา ว่า ไม่มีหรอกครับ เทวดา ที่เกี่ยวข้องกับตัวผม มันศูนย์เปอร์เซ็นต์เลย มีผู้คนพยายามปั้น หรือเบี่ยงเบนประเด็น ถ้าลำดับขั้นตอนดีๆ มันไม่เกี่ยวเลย เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น นับวันเวลา เรื่องเข้ากรรมาธิการเมื่อปี 65 เป็นช่วงที่เขาออกจากกระทรวงยุติธรรม แล้วลาออกจากพรรคหรือพรรคให้ออก ก็ไม่ทราบและไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน ความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้ไปตรงนั้นตรงนี้ ถ้ามาตรงตนมันเสียเวลาเปล่า เพราะไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น ได้ตอบชัดเจนไปแล้ว เอาเวลาไปใส่ใจประเด็นอื่นดีกว่า ไม่ใช่ว่าใครรู้จักใครจะเสียหายไปทั้งหมด การเบี่ยงเบนประเด็นไปหาคนโน้น คนนี้ เพื่อให้พ้นตัวเอง สำหรับตนๆ ไม่ทำอยู่แล้ว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงยุติธรรมเป็นแหล่งรับเรื่องราวร้องทุกข์ของคน ใครจะไปจะมาก็ได้ แต่ต้องเป็นคนดี ทำสิ่งดีๆ การที่คนรู้จักกัน ทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ว่าทำงานร่วมกันแล้ว คนหนึ่งทำผิด อีกคนต้องผิดด้วย การสัมผัสกันนิดเดียว ไม่ได้ดูดช็อตกันเร็วเหมือนไฟฟ้า ใครไปทำอะไรที่ไหนมา ไม่ได้ตามดู ไม่รู้หรอก แต่การทำงานส่วนรวมไม่ได้มีความเสียหายในช่วงนั้น เรื่องมันเกิดขึ้นที่ไปร้องเรียน สคบ. ในปี 65


เมื่อถามว่ามีการอ้างชื่อเกี่ยวข้องกับหวยออนไลน์ในแง่กฎหมายจะดำเนินการอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ดำเนินการเขาได้หรือ บอกว่ามีการอ้างชื่อถึงตน แล้วมีพยานที่ไหนล่ะ ถ้ามีพยานอ้างถึง ก็ต้องเป็นคดีความ แต่ถ้าคุยกันสองคน พูดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ คนหนึ่งบอกพูด อีกคนไม่เห็นจะพูดถึงอะไร ความเกี่ยวข้องไปถึงที่ไหนตามคดีความต่างๆ ถ้าคู่กรณีบอกไม่ได้พูด ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ให้สองคนไปฟ้องกันเอง ตนไม่คิดจะฟ้องอะไรด้วย เพราะไม่รู้จัก

“อย่างวันนี้มีมาอีก ยี่ห้อหนึ่งเรื่องยาโด๊ป เอาชื่อผมไปเกี่ยวข้องอีก พอมีชื่อผมไปเกี่ยวข้องคงขายดีมั้ง ให้เจ้าหน้าที่ติดตามเรื่องหมิ่นประมาท ทำให้เสียหายก็ต้องดำเนินคดี ขณะนี้เป็นความผิดทางพ.ร.บ.คอมพ์ฯ” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนที่รู้จักกับนายสามารถอย่างไรนั้น เขาเก่งเรื่องแชร์ลูกโซ่ ตระเวนให้ความรู้ประชาชนที่ถูกกระทำลักษณะฉ้อโกงในหลายจังหวัด เขาก็เป็นคนมีชื่อเสียงเรื่องช่วยเหลือประชาชน การหลอกลวงต้มตุ๋น เล่นแชร์ เรารณรงค์เป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ปราบอย่างไรก็ไม่หมด คนทำงานในส่วนราชการเรื่องแชร์ลูกโซ่ ก็เติบโตเป็นระดับรองอธิบดี อธิบดีกันเยอะแยะ คนที่ตั้งใจทำงานก็ได้ดีกันมากมาย แต่กรณีนี้ไม่รู้ว่าเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นในเรื่องคลิปที่ออกมา พฤติกรรมช่วงหลังๆ ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อน


เมื่อถามว่าพล.ต.ท.ปิยะระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเดียวกับที่ดำรงตำแหน่งรมว.ยุติธรรม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “เขารู้ได้อย่างไรว่าเป็นเวลาเดียวกัน เขาเป็นตำรวจเก่าใช่ไหม คุณปิยะ เป็นคนสนิทสนมกับพรรคพวกผมที่ตามมาทำงานที่นี่ เมื่อก่อนก็ไปมาหาสู่กัน ไม่มีอะไร ผมบอกแล้วว่าประเด็นต่างๆถ้าหากทำหน้าที่ทางการเมืองแล้ว ทำให้ทุกอย่างดูดี ให้คนอื่นเสียหาย มันเป็นการเมืองที่ไม่ดี ต้องเอาข้อเท็จจริงมา”

เมื่อถามว่าเป็นการเอาคืนจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีเอาคืนหรอก ก็รู้จักกัน พฤติกรรมของคนขณะที่ทำงานร่วมกันไม่มีอะไรเสียหาย ตนก็ไม่เห็นจะจับอะไรเขาได้ เพียงแต่เขาพูด เจ้าทุกข์ยังไม่ได้จ่ายเงิน ก็เลยแป๊กกันหมด หันกลับมาเล่นงานคนรู้จักกันหมดทั่วบ้านทั่วเมือง ประชาชนจะทำงานยากจะเข้ามาร้องเรียนปัญหาไม่ได้ ตนก็ไม่กล้าเจอใคร ตนทำงานตรงไปตรงมา ประชาชนเดือดร้อนอะไรที่ช่วยได้ก็ทำ ถ้าไปเกรงกลัวสิ่งเหล่านี้ไม่ได้หรอก คนที่ไม่ดี ก็อย่าไปคบ ถ้ายังไม่รู้ว่าเขาไม่ดี เราไม่คบเขาก็ไม่ได้ ก็คบทุกคน นายสามารถขณะนั้นไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แต่วันนี้มันมีปัญหาเขาก็ต้องมาชี้แจง ดำเนินคดีกับคนที่กล่าวหาเขา จะดีที่สุด แต่ถ้าเขานิ่งไปเราก็ไม่สามารถไปบังคับเขาทำนู่น ทำนี่ได้ .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]

ทางออก 3 ข้อ ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เช้าวานนี้ (28 พ.ค.) บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 2 แม้ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังแน่นหนา ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้คุยกันแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ข้อสรุป 3 ข้อ.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]