รับศพ “น้องมิ้นท์” เหยื่อพลุตะไลตกใส่ศีรษะ แม่ฝันลูกมากอดลา

นครราชสีมา 14 เม.ย. – พ่อแม่ของน้องมิ้นท์ ที่เสียชีวิตจากพลุตะไลงานศพตกใส่ศีรษะ บาดเจ็บและเสียชีวิต หลังต้องรักษาตัวมานาน 16 วัน ไปบำเพ็ญกุศล แม่น้องมิ้นท์ บอกถ้าเป็นไปได้ชาติหน้าขอกลับมาเป็นแม่ลูกกันอีก


จากกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด พลุตะไลที่จุดจากงานศพตกใส่ศีรษะ น้องมิ้นท์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนอาจวิทยาคาร อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะลึก 10 เซนติเมตร ขณะกำลังกลับจากโรงเรียนเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู หอผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หมดสติ ไม่รู้สึกตัวนาน 16 วัน

ล่าสุด น้องมิ้นท์ ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 19.45 น. คืนวันที่ 13 เมษายน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่ และคนในครอบครัว


ล่าสุดเย็นวันนี้ (14 เม.ย.) นายนิรุต สวัสดี และนางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ พ่อแม่ และครอบครัว ได้นำศพน้องมิ้นท์ออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหน้าพระธาตุ ต.ตะคุ อ.ปักธงชัย โดยญาติพี่น้อง และชาวบ้านในหมู่บ้านได้เดินทางมาร่วมรดน้ำศพของน้องมิ้นท์ ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าโศก

นางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ แม่ของน้องมิ้นท์ เปิดเผยว่า ก่อนที่น้องมิ้นท์จะเสียชีวิต 1 วัน ฝันเห็นลูกเข้ามากอด จึงถามไปว่าจะไม่อยู่กับแม่แล้วนิ น้องก็ได้แต่ร้องไห้ และส่ายหัว เพียงแค่นี้จากนั้นน้องก็จากไปเลย ขอให้น้องมิ้นท์หลับให้สบายไม่ต้องห่วง ถ้าเป็นไปได้หากเกิดชาติหน้า ก็ขอให้น้องกลับมาเกิดเป็นแม่ลูกกันอีก

ด้าน พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยหลังทราบว่าน้องมิ้นท์เสียชีวิต ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เรียกชาย 2 คนที่เป็นผู้จุดพลุในงานศพที่เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ให้มารับทราบข้อกล่าวหาใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส เปลี่ยนเป็นข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่มีการจัดงานศพให้กับคุณยายวัย 90 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา ที่วัดหน้าพระธาตุ อ.ปักธงชัย ซึ่งเมรุกับวัดอยู่กันคนละที่ โดยมีพื้นที่โรงเรียนอยู่ตรงกลาง เจ้าภาพได้ซื้อพลุบั้งไฟตะไลจำนวน 6 อัน เพื่อจุดแสดงความไว้อาลัยให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วตามความเชื่อมาแต่โบราณ แต่จุดติดเพียง 4 อัน ปรากฏว่า พลุไฟไปตกใส่ศีรษะเด็กจนอาการสาหัส ซึ่งก่อนหน้านี้ นายจำลองหนึ่งในผู้จุดพลุ บอกว่า ไม่คิดว่าพลุไฟจะไปตกใส่ศีรษะเด็กจนอาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์ร้าย ขอยอมรับผิด หลังเกิดเหตุได้ไปขอโทษกับทางครอบครัว และไปรับทราบข้อกล่าวหากับทางตำรวจแล้ว และพร้อมแสดงรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง