รอผลชันสูตร “น้องมิ้นท์” วิ่งช็อกดับ มรภ.ภูเก็ตเตรียมถอดบทเรียน

ภูเก็ต 24 ส.ค. – การเสียชีวิตของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา จากจุดเริ่มต้นที่รุ่นพี่สั่งลงโทษให้รุ่นน้องวิ่ง จนถึงวันนี้ในทางคดี แม้ว่าทางตำรวจจะระบุว่าไม่ได้มีความซับซ้อน แต่ก็ยังต้องรอผลการชันสูตรมาประกอบกับสำนวนก่อนจะยื่นส่งฟ้องต่อศาล ขณะเดียวกันทางมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตได้ถอดบทเรียนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พร้อมด้วยทนายความซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้ปกครองของนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.พรพิพัฒน์ เอียดดำ หรือน้องมิ้นท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 เดินทางมาพร้อมด้วยนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คนดังกล่าว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ต่อพนักงานสอบสวนฐานทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เบื้องต้นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ระบุว่า นักศึกษาหญิงวัย 20 ปี ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา มีอาการเครียดเป็นอย่างมาก โดยให้การยอมรับว่าเป็นคนสั่งให้น้องมิ้นท์ และเพื่อนเชียร์ลีดเดอร์ทั้งกลุ่มวิ่ง ด้วยสาเหตุที่ทั้งหมดเต้นไม่พร้อมกันในช่วงที่ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ โดยเป็นการสั่งทำโทษให้วิ่งทั้งหมด 7 รอบ บริเวณลานจอดรถของตึกเทคโนโลยีอุตสาหกรรมภายในมหาวิทยาลัย เป็นระยะทางรวมกันราว 350 เมตร ส่วนเพื่อนรุ่นพี่อีก 3 คน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าขณะเกิดเหตุอยู่ภายในอาคาร ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทางตำรวจจึงไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา


ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต มาติดตามความคืบหน้าคดีระบุว่า ขณะนี้ตำรวจสอบปากคำพยานทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 15 ปาก และคาดว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งสำนวนฟ้องต่อศาลได้ในทันทีที่ทราบผลการชันสูตรศพของน้องมิ้นท์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สถาบันนิติเวชกำลังตรวจสอบชิ้นเนื้อบริเวณหัวใจ เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน โดยได้สั่งกำชับให้ตำรวจสอบปากคำอาจารย์ที่่่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างรัดกุม เพื่อพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติมอีกบ้าง

อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภักภูเก็ต ระบุว่า การจัดกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เพราะเป็นการเปิดพื้นที่ให้นักศึกษานอกเหนือจากความรู้เชิงวิชาการ แต่
ยอมรับว่าหลังจากนี้มหาวิทยาลัยจะต้องทบทวนมาตรการการดูแลความปลอดภัยให้กับนักศึกษาในระหว่างที่ทำกิจกรรมต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยให้มากขึ้น ทั้งการให้ความรู้กับนักศึกษาถึงขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับคนที่เป็นลมและหัวใจหยุดเต้น การเตรียมพร้อมอุปกรณ์การช่วยชีวิต อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ รวมถึงรถพยาบาล เพื่อป้องกันการสูญเสียไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยเหมือนเช่นครั้งนี้อีก

การเสียชีวิตของ น.ส.พรพิพัฒน์ เอียดดำ ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว แต่ยังเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้รุ่นพี่ที่นิยมการสั่งลงโทษรุ่นน้องให้รอบคอบและมีสติให้มากขึ้น เช่นเดียวกับทางมหาวิทยาลัยจะต้องมีมาตรการรองรับเพื่อปกป้องชีวิตของนักศึกษาให้ได้รับความปลอดภัยตราบเท่าที่ยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้