เด็ก 9 ขวบถูกพลุหล่นใส่ศีรษะยังโคม่า

นครราชสีมา 1 เม.ย.- ผู้ว่าฯ โคราชสั่งห้ามจุดพลุตะไลแล้ว หลังเกิดเหตุพลุตกใส่ศีรษะน้องมิ้นท์วัย 9 ขวบ อาการโคม่า แพทย์ยอมรับอาการน้องอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ


มีความคืบหน้าอาการของเด็กหญิงณัฐชา สวัสดี หรือน้องมิ้นท์ นักเรียน ป.3 วัย 9 ขวบ ที่ถูกพลุตะไลใช้จุดในงานเผาศพพุ่งตกลงมาใส่ศีรษะ ขณะน้องกำลังเดิน ออกจากโรงเรียนอาจวิทยาคาร อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน โดยนายแพทย์บวร เกียรติมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า อาการของน้องมิ้นท์ยังถือว่าโคม่า ก้านสมองไม่ทำงาน เพราะถูกกระทบกระเทือน ส่วนร่างกายอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ

แจ้งข้อหา 2 คนจุดพลุเพิ่มอีก 1 ข้อหา


ขณะที่นายอำเภอปักธงชัย ที่เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของน้องมิ้นท์ที่บ้าน พร้อมกับผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจุดพลุในงานประเพณีต่างๆ ยืนยันว่าการจุดพลุต้องขออนุญาตกับทางอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน และผู้ขออนุญาตต้องแจ้งสถานที่ ขนาด รวมถึงจำนวนของพลุ ให้เจ้าหน้าที่ทราบอย่างชัดเจน แต่กรณีที่เกิดขึ้นเจ้าภาพงานศพไม่ได้ขออนุญาตในการดำเนินการแต่อย่างใด ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ยิ่งผลของการจุดพลุตะไลครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทำให้ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “จุดพลุโดยไม่รับอนุญาต” เพิ่มกับคนจุดพลุในงานศพ 2 คน จากเดิมที่โดนเพียงข้อหาเดียวคือกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส

ผู้ว่าฯ โคราช เล็งออกข้อห้ามยกเลิกจุดพลุ


ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ โคราช ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องน่าเสียใจ ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะปกติจุดพลุจะต้องขออนุญาตส่วนราชการ แต่ครั้งนี้ชาวบ้านอาจเห็นว่าเป็นงานศพ เป็นวิถีของชาวบ้าน จึงจุดพลุตะไลตามความเชื่อ ซึ่งปัจจุบันบ้านเมืองเจริญขึ้นมาก หากจุดพลุดังกล่าวอาจส่งผลกระทบทั้งบ้านและคนที่อยู่โดยรอบ เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพง ที่ผ่านมาจังหวัดได้กำชับมาโดยตลอดในเรื่องของการห้ามจุดพลุ แต่จากเหตุการณ์นี้ไปจะต้องกำชับเข้มงวดมากขึ้น พร้อมจะไปศึกษาข้อกฎหมายในการสั่งห้ามหรือยกเลิกการจุดพลุอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากทำได้ก็จะสั่งห้ามทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง