วอชิงตัน 28 มี.ค.- ผู้บัญชาการทหารหลายประเทศออกแถลงการณ์ร่วมกันประณามเมียนมาที่ใช้กำลังถึงตายกับผู้ประท้วง หลังจากเกิดเหตุนองเลือดที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ผู้บัญชาการทหารหลายประเทศประกอบด้วยสหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย แคนาดา เยอรมนี กรีซ อิตาลี เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ ออกแถลงการณ์ร่วมกันอย่างที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักว่า ทหารอาชีพจะปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและมีหน้าที่ปกป้อง ไม่ใช่ทำร้าย ประชาชนที่พวกเขาต้องรับใช้ ขอเรียกร้องให้กองทัพเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงและหาทางกอบกู้ความศรัทธาและความเชื่อถือของประชาชนชาวเมียนมาที่สูญเสียไปเพราะการกระทำของกองทัพ
แถลงการณ์ประณามนี้มีขึ้นหลังจากกองกำลังรักษาความมั่นคงสังหารผู้ชุมนุมอย่างนองเลือดที่สุดในวันเดียว ตรงกับวันแสดงแสนยานุภาพประจำปีเนื่องในวันกองทัพ กลุ่มติดตามสถานการณ์กลุ่มหนึ่งเผยว่า มีคนถูกสังหารอย่างน้อย 90 คน แต่เว็บท่าข่าวเมียนมานาวรายงานว่า มีคนถูกสังหารทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 114 คน เฉพาะในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองมีผู้เสียชีวิต 40 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงวัย 13 ปี ส่วนที่นครย่างกุ้ง เมืองหลวงเชิงพาณิชย์มีผู้เสียชีวิต 27 คน ยอดผู้เสียชีวิตจากการถูกกองกำลังรักษาความมั่นคงกวาดล้างตั้งแต่รัฐกะฉิ่น ทางเหนือสุดของประเทศไล่ลงมาจนถึงเมืองทางใต้สุดติดทะเลอันดามันนับตั้งแต่เกิดรัฐประหารรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 440 คน
นายโทมัส แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษเรื่องเมียนมาของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) แถลงว่า ถึงเวลาแล้วที่โลกจะต้องดำเนินการ หากไม่สามารถดำเนินการผ่านคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ก็ต้องดำเนินการผ่านที่ประชุมสุดยอดฉุกเฉินสากล รัฐบาลทหารเมียนมาควรต้องถูกตัดเงินสนับสนุน เช่น รายได้จากการค้าน้ำมันและก๊าซ และตัดการเข้าถึงอาวุธ ลำพังการประณามหรือแสดงความกังวลเป็นเพียงการแสดงความไม่จริงใจต่อชาวเมียนมา เพราะรัฐบาลทหารยังคงสังหารหมู่พวกเขาต่อไป.-สำนักข่าวไทย