กองทัพบก 24 ต.ค.-“บิ๊กอ้วน” หวานเจี้ยบ รักทหารมากขึ้น ไม่ระแวง ปว. ยังไม่เห็นกฎหมายสกัดรัฐประหารยุค “สุทิน” ปรับ mindset คนเดือนตุลาฯ ทำงานกับกองทัพได้ พร้อมสัญญาปรับโครงสร้างกองทัพ อัดฉีดดูแล “ทหารเกณฑ์-ประทวน”
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังตรวจเยี่ยมกองทัพบกว่า วันนี้มาอยู่ในวงรอบของทหารก็รู้สึกอบอุ่น ได้ต้อนรับอย่างสมเกียรติ ถือเป็นการให้เกียรติตนในการเข้ามาร่วมกันทำงาน
ทั้งนี้ ได้ฟังสิ่งที่กองทัพได้ดำเนินการและแผนงานที่จะเดินไปข้างหน้า โดยมีเป้าหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดให้ได้ โดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในโลกสมัยใหม่ และภัยคุกคามที่เกิดขึ้น จากการเข้าไปช่วยเหลืออุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายทำให้เห็นถึงศักยภาพความมีระเบียบวินัย และ ประสิทธิภาพของกองทัพ สิ่งที่ได้พูดคุยในวันนี้คือการเพิ่มบทบาทภาระหน้าที่ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นอาจจะต้องมีการ กำหนดโครงสร้างต่างๆในส่วนของทหารบกก็มีหน่วยทหารช่าง ต้องปรับโครงสร้างตรงนี้ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างดี
นายภูมิธรรม กล่าวว่าสิ่งที่จะต้องพูดคุยกันต่อไป คือเรื่องการเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจมากขึ้น ซึ่งจะต้องมี แผนนโยบายไทม์ไลน์ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนและ มีการพูดคุยกันว่าบทบาทหน้าที่ในการเกณฑ์ทหารอาจจะไม่ใช่กองทัพบกเพียงอย่างเดียว ซึ่งกองทัพเรือและกองทัพอากาศควรจะต้องทำบทบาทหน้าที่ของตนเองในส่วนนี้ด้วย เพราะจะทำให้ทหารเกณฑ์สามารถสมัครในพื้นที่ตัวเองไม่ต้องมาเกณฑ์ทหารในส่วนกลางเป็นการจัดคนให้ถูกกับงาน ไม่ใช่เอาชาวเขาไปอยู่ในทะเล พร้อมทั้งจะทำให้ให้ผู้ปกครองมาเยี่ยมได้สะดวกมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นและวางบทบาทเหล่าทัพให้ชัดเจนขึ้น
นอกจากนั้นยังมีการพูดเรื่องการปรับลดกำลังพลและเพิ่มเทคโนโลยีเข้ามาช่วย อีกครั้งต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิการ ทหารชั้นผู้น้อยอาจจะต้องมีการหารือกับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม). การเคหะแห่งชาติ เพื่อให้เขามีโอกสที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบางต้องได้รับการเอาใจใส่ช่วยเหลือ
รวมถึง ชีวิตความเป็นอยู่ของทหารชั้นประทวนโดยพิจารณาเพิ่ทเบี้ยเลี้ยง อาจต้องหารือกับกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งหมดต้องดูที่เหตุและความจำเป็น ความถูกต้องเหมาะสม ปัจจุบันเรามีเศรษฐกิจมีปัญหา หากดีขึ้นก็เชื่อมั่นว่าจะดูแลส่วนเหล่านี้มากขึ้น วันนี้เป็นการมอบนโยบา ยจึงเป็นแค่เรื่องนามธรรม สิ่งที่เราต้องการคือความเป็นรูปธรรม เช่นไทม์ไลน์ ความชัดเจนในรายละเอียด มั่นใจว่าจะเริ่มทำตั้งแต่วันนี้เชื่อว่าจะทำสำเร็จได้เร็ว อันไหนที่ยาก ยังทำไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานเอาไว้ก่อน “commit ครับ ผมคิดว่าเราจะมาปรับปรุงกระบวนการต่างๆให้ดีขึ้น”
เมื่อถามว่าทำงานมาสองเดือนแล้วความรู้สึกกับทหารแตกต่างจากเมื่อตอนเป็นนักศึกษาหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็แตกต่าง เมื่อก่อนไม่เคยเข้ามาสัมผัสภายในนี้ ตอนเป็นนักศึกษาก็มีความรู้สึกแตกต่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับทหารแต่ละยุคสมัยเพราะตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย 2514-2515 ตอนนั้นทหารระดับสูงจะมีอำนาจมาก จึงเกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคมซึ่งเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ตนคิดว่าวันนี้ส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทหาร หรือพลเรือน ต้องปรับตัว ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว เพราะฉะนั้นความทันสมัย กับการที่โลกเปิดให้เราได้สามารถดูความเจริญ ดูความเป็นจริงและเหตุผล ต่างๆของคนในโลก ทำให้เราต่างปรับmindset เข้าหากัน ในวันนี้จากการที่ได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาทหารระดับต่างๆก็คิดว่าเป็นไปทางที่ดีเพียงแต่ต้องถกกันให้มาก เพื่อที่จะหาหนทางว่าตรงไหนถูกต้อง
เมื่อถามว่ารักทหารมากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็รักมากขึ้นอยู่แล้วแต่เป็นการรักตามสภาพแวดล้อม เมื่อทหารทำอะไรหลายๆอย่างได้ ตนก็สบายใจ ตอนมาครั้งแรกก็เกร็งเหมือนกัน เพราะไม่เคยเข้ามาคลุกคลีใกล้ขนาดนี้ แต่เมื่อเข้ามาอยู่แล้วก็เห็นว่าทหารเป็นคนมีวินัยมาก เช่นเหตุการณ์น้ำท่วมที่เชียงราย ผบ.ทหารเข้าไป 2 ชั่วโมงแรกก็สามารถจัดระเบียบ ลดความสับสนลงได้
เมื่อถามว่าแสดงว่ารัฐบาลไม่ระแวงทหารว่าจะทำอะไรแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องไประแวงหรอกวันนี้ทุกอย่างร่วมมือกันทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนกรณีที่ครม.ไม่รับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมนายภูมิธรรม กล่าวว่า ในความเป็นจริงแล้วสภาได้รับร่างพรบ. ดังกล่าว ในส่วนของพรรคประชาชนมาแล้ว ใกล้ครบ 60 วัน แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบเช่นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการวมถึงหลายหน่วยงานมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่ายังไม่ควรรับ เพราะมีปัญหา ซึ่ง ครม.รับทราบประเด็นนี้ ให้นำข้อสังเกตของหน่วยงานเหล่านั้นแนบไปให้สภาพิจารณา ตนจึงได้เสนอความเห็นว่าในส่วนของสภากระทรวงกลาโหม ในช่วงที่นายสุทิน คลังแสง เป็นรัฐมนตรีได้ทำร่างไว้ ซึ่งตรงนี้ตนเข้าใจผิด เพราะยังไม่ได้รับข้อมูลจากหน่วยงานเต็มที่ ตนจึงพูดไปก่อนว่าจะใช้ร่างของกระทรวงกลาโหมประกบล่างในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในความเป็นจริงก็ยังต้องมีกระบวนการอีก
เมื่อถามว่าในประเด็นการให้อำนาจนายกฯและคณะมนตรีพักราชการผู้บังคับหน่วยทหสรที่จะกระทำการยึดอำนาจยังมีอยู่ในร่างพระราชบัญญัตินี้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนยังไม่ได้อ่าน ส่วนจะปฏิบัติได้จริง หรือนายกฯจะกล้าใช้อำนาจหรือไม่นั้น ตนก็ยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่เห็นร่างเพราะแต่ละร่างและแต่ละความเห็นต้องมีองค์ประกอบว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร รวมถึงสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร เรื่องเหล่านี้ควร ดูความเป็นจริง.-313.-สำนักข่าวไทย