“ภูมิธรรม” สั่งทุกส่วนหนุนกองทัพรับมือสถานการณ์ชายแดน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” สั่งการ ครม.ทุกส่วนสนับสนุนกองทัพรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอบคุณทหารอดทนอดกลั้นจากการยั่วยุ มอบ ศบ.ทก. ประสานเข้มห้ามพลเรือนกัมพูชารุกล้ำเขตแดนผิดกฎหมาย-จัดการแก๊งคอลฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีข้อสั่งการจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรีราชการแทนนายกรัฐมนตรี ถึงการแก้ไขปัญหาชายแดน ไทย-กัมพูชา และผลกระทบจากสถานการณ์พายุคาจิกิ ซึ่งได้เตรียมแผนรับมือตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ โดยมีข้อ สั่งการเพิ่มเติม ดังนี้ นอกจากนี้ ยังมีข้อสั่งการให้ ศบ.ทก. ประสานการปฏิบัติให้มีผลสัมฤทธิ์ กระชับความเป็นเอกภาพทั้งการทหาร การต่างประเทศ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ รวมถึงการปฏิบัติการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย รวมถึงมาตรการอื่น ๆ อาทิ เข้มงวดกับปฏิบัติการห้ามไม่ให้พลเรือนกัมพูชารุกล้ำเขตแดนอย่างผิดกฎหมาย และการติดตามเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมด้าน Scammer

กมธ.มั่นคงฯ เชิญ “รัฐบาล-กองทัพ” หารือแนวทางใช้ ICC สร้างสันติภาพ

รัฐสภา 21 ส.ค.-กมธ.มั่นคงฯ เชิญ “รัฐบาล-กองทัพ” หารือแนวทางใช้ ICC สร้างสันติภาพระยะยาว “โรม” ชี้ชายแดนยังตึงเครียด มองยื้อกันไปมาทำปัญหาถูกแช่แข็ง ย้ำสุดท้ายทุกอย่างจบที่โต๊ะเจรจา คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชนเป็นประธาน มีวาระการประชุมเรื่องติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา โดยเชิญ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พลตรีณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศมาเข้าให้ข้อมูล โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องชายแดนไทยกัมพูชาต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ยอมรับว่าสถานการณ์อาจนิ่งขึ้นแต่ยังมีปัญหาอยู่ และยังมีการปะทะคารมในบรรยากาศที่ตึงเครียด ระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า และมีข้อมูลว่าช่องอานม้าเป็นพื้นที่ที่มีความล้มเหลวในการบริหารจัดการชายแดนมานาน ซึ่งเป็นผลให้ช่องอานม้ายังคงเป็นอยู่อย่างนี้อย่างที่เราเห็น มีชุมชนชาวกัมพูชามาตั้งอยู่เต็มพื้นที่ โดยบรรยากาศเริ่มเข้มข้นขึ้น จึงต้องมีแนวทางในการพูดคุยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป และอาจรวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ที่มีการรุกล้ำ ผ่านการสร้างกาสิโน และอาจมีการรุกล้ำพื้นที่อื่น ๆเข้ามาได้เรื่อย ๆ หากไม่มีการเตรียมการ ทั้งนี้จะต้องมีการพูดคุยกันในที่ประชุมโดยหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาหารือต่อพลเอกณัฐพลเช่นเดียวกัน และอาจได้พูดคุยกันในแง่ของการทูตการต่างประเทศว่าจะมีแนวทางต่อไปอย่างไร ต้องไม่ลืมว่าสุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องจบลงที่การเจรจา ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึงใช้กลไกศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC […]

“โรม” มองหากพยานคดีคลิปเสียงเป็น “กองทัพ” คงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น

รัฐสภา 20 ส.ค.-“โรม” มองหากพยานคดีคลิปเสียงเป็น “กองทัพ” คงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ชี้ “แพทองธาร” อยากเล่นการเมืองต้องมีสปิริตมากกว่านี้ แต่ถ้าจะทำตอนนี้คงช้าไป นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวน คดีคลิปเสียงของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนทนากับสมเด็จฮุน เซน ในวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) ว่า ต้องยอมรับว่า มีคลิปจริง ไม่ใช่การถกเถียงว่าเป็นคลิปปลอม แต่ตนก็ต้องตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ไปเป็นพยาน ถ้าเป็นกองทัพน้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้น แต่พยานเมื่อเป็นพยานที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง ก็ต้องยอมรับว่าน้ำหนักน้อยลง แต่ก็ต้องติดตามต่อไป ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการที่จะใช้นิติสงครามใดๆ ซึ่งไม่ตรงกับจุดยืนของพรรคประชาชน และต้องยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ที่ได้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากคลิปเสียง “ผมยอมรับว่า สิ่งที่สมเด็จฮุนเซนทำในการปล่อยคลิปเสียงไม่เหมาะสม แต่การพูดของนายกฯ ในเรื่องนั้นก็ไม่เหมาะสมเช่นเดียวกัน ดังนั้นก็ต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าจะเข้ามาทำการเมืองแล้วแสวงหาแต่ความรับชอบ ผมว่าก็ไม่ควรมาเป็นนักการเมือง เพราะเราต้องการนักการเมือง ที่กล้าหาญมากกว่านี้ วันนี้ที่มีปัญหาหลายๆ อย่างที่แก้ไม่ตก เพราะว่าท่านไม่รู้จักความรับผิดรับผิดชอบ จึงทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเรายุ่งเหยิง และเกิดปัญหาเสถียรภาพแบบนี้ ผมอยากเห็นนายกฯ แสดงสปิริต แต่ก็คงเป็นคำพูดที่ช้าไปเพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้ว […]

ทหารเกาหลีใต้ลดลง 20% ใน 6 ปี เหตุประชากรชายลดลง

โซล 10 ส.ค. – จำนวนทหารในกองทัพเกาหลีใต้ลดลงร้อยละ 20 ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เหลือเพียง 450,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงอย่างรวดเร็วของประชากรชายวัยเกณฑ์ทหารในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก รายงานจากกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า การลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วของกลุ่มประชากรชายที่สามารถเข้าเป็นทหารได้ ยังทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนนายทหาร และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป กองทัพเกาหลีใต้มีจำนวนกำลังพลลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 ที่มีกำลังพลประมาณ 690,000 นาย โดยจำนวนลดลงเร็วขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 2010 และมีทหารประจำการรวมถึงนายทหารประมาณ 563,000 นายในปี 2019 ในขณะที่เกาหลีเหนือเชื่อว่ามีทหารประจำการประมาณ 1.2 ล้านนาย จากการประมาณการล่าสุดของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ในปี 2022 ข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า ในช่วงระหว่างปี 2019 ถึง 2025 จำนวนประชากรชายวัย 20 ปีลดลงถึงร้อยละ 30 เหลือ 230,000 คน ซึ่งเป็นอายุที่ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ผ่านการตรวจร่างกายจะเข้ารับราชการทหารภาคบังคับที่มีระยะเวลา 18 เดือนในปัจจุบัน กองทัพได้อ้างถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นเป็นเหตุผลสำคัญในการย่นระยะเวลาการเป็นทหารให้น้อยลง ซึ่งเป็นผลมาจากพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐและการพัฒนาอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศที่ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ ในอดีต ผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรงจะต้องเข้าเป็นทหารเป็นระยะเวลา 36 เดือนในช่วงปี […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

ยันรัฐบาล-กองทัพ เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เกี่ยวความนิยมพรรค

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – เพื่อไทยบอกประชาชนเชื่อมั่นกองทัพมากกว่ารัฐบาลเป็นเรื่องดี ยันรัฐบาล-กองทัพ เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เกี่ยวความนิยมพรรค นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลสำรวจของนิด้า ที่เผยว่าเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเชื่อมั่นในกองทัพมากกว่ารัฐบาลในการดำเนินการว่า กองทัพคือหน่วยหน้าที่อยู่ในพื้นที่ สิ่งที่ประชาชนเชื่อมั่นในกองทัพเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง แต่รัฐบาลทำงานร่วมกับกองทัพเป็นหนึ่งเดียว มีการตั้งคณะกรรมการหลายชุดที่เป็นทั้งคนของรัฐบาลและกองทัพ เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ ฝากประชาชนให้เชื่อมั่นการทำงาน ส่วนเป็นการสะท้อนถึงความนิยมของรัฐบาลหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ ประชาชนเข้าใจดี เมื่อเกิดเหตุสงคราม ตัวพึ่งหลักของประเทศและที่พึ่งหลักของรัฐบาลคือกองทัพ ที่จะปกป้องอธิปไตยของประเทศ เราปฏิเสธไม่ได้ว่ากองทัพคือกำลังหลักในการรักษาอธิปไตยของประเทศ ประชาชนเชื่อมั่นในกองทัพเป็นสิ่งที่ดี.-314-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” สั่งกองทัพดูแลเต็มที่ 3 ทหารเหยียบกับระเบิดที่ศรีสะเกษ

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” รับทราบรายงานทหารเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ที่ศรีสะเกษ วันนี้ (9 ส.ค.) สั่งการให้กองทัพดูแลรักษาอย่างเต็มที่ พร้อมการเยียวยา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจาก ศบ.ทก.ของรัฐบาลและกองทัพภาคที่ 2 ว่าทหารออกลาดตระเวนบริเวณพื้นที่รอยต่อไทย-กัมพูชา ช่องโดนเอาน์-กฤษณา เหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 ดูแลทหารกล้าที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ข้อมูลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย 1.จ.ส.อ.ธานี พาหา ตำแหน่ง ผบ.หมู่.ปก กรุ๊ปเลือด B ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด 2.พลฯ ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่ง พล.ปล. กรุ๊ปเลือด AB บาดเจ็บที่แขนและด้านหลัง 3.พลฯ […]

บีทีเอส มอบเงินให้กองทัพ 50 ล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยากำลังพลแนวหน้า

กทม. 7 ส.ค.-บีทีเอส มอบเงินให้กองทัพ 50 ล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยากำลังพลแนวหน้าปฏิบัติหน้าที่ไทย-กัมพูชา ขณะที่วานนี้ มอบให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 50 ล้าน รวมมอบ 100 ล้านบาท นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส นำคณะผู้บริหารของบริษัทฯ มอบเงินสนับสนุน 50 ล้านบาท ให้กับกองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เพื่อนำไปช่วยเหลือ และเยียวยากำลังพล ที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต จากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดจนนำไปดูแลครอบครัวของกำลังพลที่ได้รับผลกระทบ โดยเมื่อวานนี้ ก็ได้มอบเงินสนับสนุนรัฐบาลจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยเหลือ และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา” รวมเป็นเงินที่สนับสนุนทั้งหมด 100 ล้านบาท นายคีรี กล่าวว่า รู้สึกว่าดีใจที่ได้มีโอกาสแสดงถึงความจริงใจและห่วงใยแก่กองทัพ ที่มีทหารแนวหน้าและทุกส่วนที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยเมื่อวานนี้ก็ได้ไปมอบเงินก้อนแรกกับรัฐบาล วันนี้ตั้งใจมามอบให้กับกองทัพบกและและยินดีที่ได้พบกับแม่ทัพภาคที่สอง เพื่อส่งกำลังใจไปให้ทหารแนวหน้า ในการปฏิบัติหน้าที่ ด้าน […]

“ภูมิธรรม” ยันรัฐไม่กดดันกองทัพปล่อยตัว 18 ทหารกัมพูชา

ก.มหาดไทย 31 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยันรัฐไม่กดดันกองทัพปล่อยตัว 18 ทหารกัมพูชา ให้ จนท.สอบจะได้มีหลักฐานชัด ย้ำอย่ามองรัฐกับทหารแตกกัน ขอให้รอหลังถูกถามแนวทางยึดปราสาทตาควายคืน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลกดดันให้กองทัพปล่อยตัว 18 ทหารกัมพูชาที่ถูกจับกุม ว่า ไม่ได้กดดัน โดยให้เป็นไปตามกระบวนการ และได้ชี้แจงตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วว่าทหารกัมพูชา 18 นาย ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่สอบสวนว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพื่อจะได้มีหลักฐานครอบคลุมชัดเจน พร้อมขออย่าพยายามตั้งคำถามหรือมองในแง่ว่ารัฐบาลกับทหารแตกแยกกัน เพราะเราโทรคุยกันทุกเช้า ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามถึงในส่วนของปราสาทตาควาย จะมีแนวทางยึดคืนมาได้อย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรายึดครองอยู่ตอนนี้ เมื่อถามย้ำว่าหมายถึงตัวปราสาท นายภูมิธรรม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าเดี๋ยวรอ.-316.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก” ทำงานเชื่อมกองทัพได้ดี ยังไม่คิดตั้ง รมว.กลาโหม

ก.มหาดไทย 30 ก.ค.-“ภูมิธรรม” บอก “บิ๊กเล็ก” ทำงานเชื่อมกองทัพ และป้องกันภัยคุกคามได้ดี ยังไม่คิดตั้ง รมว.กลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวถึงในสถานการณ์ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาในขณะนี้จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ว่า วันนี้เรื่องสำคัญคือสู้กับประเทศกัมพูชา และขณะนี้ยังจับมือกันได้ดี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการรมว.กลาโหม ยังทำงานได้ดี เป็นคนเชื่อมประสานกับกองทัพได้ดีอยู่แล้ว ตนคิดว่าไม่มีอะไรต้องคิดนอกลู่นอกทาง หรือนอกเส้นทาง สิ่งที่เราทำวันนี้ คือร่วมมือกันจับมือช่วยเหลือกันสู้กับภัยที่คุกคามประเทศอยู่.-319.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดเอาภาษีสหรัฐผูกคอกองทัพ ร่วมกันสู้กัมพูชา

กระทรวงมหาดไทย 30 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ปัดเอาภาษีสหรัฐผูกคอกองทัพ ยันทหารรับรู้ทุกขั้นตอน หลังร่วมวงเจรจาหยุดยิง วอนอย่าเปิดประเด็นแตกกับกองทัพ ต้องร่วมกันสู้กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่การตั้งข้อสังเกต ว่า มีการนำเรื่องเจรจาภาษีสหรัฐมาผูกโยงกับการเจรจาหยุดยิงกับกัมพูชา จะทำให้ยุทธวิธีทางการทหาร เบี่ยงเบนไปหรือไม่ ว่า ต้องถามว่าการที่เราดำเนินการ เพื่อประโยชน์ต่อการลดอัตราภาษีให้มีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลง เป็นเรื่องดีต่อประเทศไทยหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ผูกพันกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ทุกฝ่ายรับรู้ โดยวันที่ตนหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ของสหรัฐ ก็ได้มีการชี้แจงตั้งแต่วันแรกแล้ว และฝ่ายกองทัพก็รับรู้ ส่วนตัวยังคิดว่าสิ่งที่สื่อให้ความสำคัญและพูดน้อย คือ การดำเนินการของรัฐบาล ที่เริ่มต้นมา เราทำงานร่วมกันกับกองทัพ และการไปครั้งนี้เราก็ได้มีการติดต่อว่า เราจะดำเนินการแค่ไหนอย่างไร และแค่ไหนที่กองทัพจะรับได้ เราได้คุยกันตลอด และสิ่งที่กองทัพได้ยื่นมาว่าให้รัฐบาลมุ่งเน้นไปที่เรื่องอะไร มีการปรากฏอยู่ในบันทึกของการพูดคุยทั้งหมด “ที่บอกว่ารัฐบาลมีปัญหากับกองทัพ มันไม่มี อย่าไปเปิดประเด็น เพราะตอนนี้เรากำลังสู้อยู่กับกัมพูชา แทนที่เราจะรวมกันและไปสู้กับเขา เพราะเขาใช้ทุกกระบวนการ ทั้งไอโอ แต่เรากลับ มาตั้งปัญหาของเรา และในทางปฏิบัติยังไม่ได้ ปรากฏปัญหาอะไรเลย ว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการของกองทัพ จะขัดข้องกับรัฐบาล อย่าเอาข่าวหรืออะไรที่ไม่เข้าใจแล้วมาพูด เพราะจะทำให้ประเทศตัวเองเพลี่ยงพล้ำ […]

1 2 3 38
...