จาการ์ตา 23 ก.ย. – ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย กล่าววันนี้ว่า อินโดนีเซียกำลังพัฒนาพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกขนาดใหญ่ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ประเทศสิงคโปร์ 10 เท่า เพื่อแก้ปัญหาที่อินโดนีเซียต้องพึ่งพิงอาหารที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ประธานาธิบดีวิโดโด กล่าวในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ว่า โครงการนี้ ซึ่งจะมีพื้นที่ขยายไปเป็นบริเวณกว้างกินเนื้อที่เกือบ 2 ล้านเอเคอร์ หรือ ประมาณ 5 ล้านไร่ ซึ่งจะนำมาใช้ในการเพาะปลูกข้าว มันสัมปะหลังและข้าวโพด สำหรับใช้บริโภคในประเทศ ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวว่า โครงการนี้ เป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่าจะเกิดวิกฤติการณ์ด้านอาหารอันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเพื่อแก้ปัญหาการที่อินโดนีเซียต้องพึ่งพิงอาหารที่นำเข้าจาก ต่างประเทศ โครงการในเบื้องต้นจะเริ่มที่จังหวัดสุมาตราเหนือ และภาคกลางของจังหวัดกาลีมันตัน บนเกาะบอร์เนียวส่วนที่เป็นของอินโดนีเซีย หลังจากนั้น จะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้แก่ จังหวัดสุมาตราใต้ จังหวัดปาปัว, นูซาเต็งการาตะวันออก อย่างไรก็ตาม กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้แสดงท่าทีไม่พอใจในโครงการที่ผู้นำอินโดนีเซียประกาศ โดยได้เตือนว่า โครงการในลักษณะเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะไปบุกรุกใช้พื้นที่ป่าพรุ หรือ พื้นที่ชุ่มน้ำ และเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเผาป่า ซึ่งเป็นสาเหตุของฝุ่นควันพิษที่เกิดขึ้นทุกปีและส่งผลกระทบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคมาตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย