fbpx

ทล.มั่นใจเร่งเบิกจ่ายงบปี 63 ได้มากกว่าร้อยละ 90

กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – กรมทางหลวงมั่นใจเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ได้มากกว่าร้อยละ 90 แม้มีเวลาเบิกจ่ายงบเพียง 8 เดือน  ขณะที่งบประมาณปี 64 ลุยงานด้านปลอดภัย  ติดตั้งราวกันอันตราย หรือการ์ดเรล ป้องกันอุบัติเหตุรถหลุดทางชนต้นไม้ใหญ่


นายสราวุธ ทรงศิวิไล  อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.)  เปิดเผยถึงการดำเนินการโครงการสำคัญในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งกรมทางหลวงได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 113,883 ล้านบาท  และแม้ว่าการเริ่มเบิกจ่ายปีงบประมาณจะล่าช้ามีเวลาเพียง 8 เดือนในการเบิกจ่าย แต่กรมทางหลวงมั่นใจว่าจะสามารถเร่งการเบิกจ่ายตามนโยบายของรัฐบาลได้มากกว่าร้อยละ 90 ของงบประมาณทั้งหมด

ทั้งนี้ ในปี 2563 กรมทางหลวงมีโครงการสำคัญนอกจากโครงการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี  ยังมีโครงการ เช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน- บ้านแพ้ว ระยะทาง 25 กม. ซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบ PPP มูลค่าโครงการ 32,210 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างระหว่างปี 2563-2567 มอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 109 กม.งบลงทุน 79,006 ล้านบาท  ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างปี 2564-2567 รวมทั้งโครงการทางหลวงแผ่นดินสายอื่น ๆ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ ระยะทาง  16.80 กม. งบลงทุน 3,930 ล้านบาท(ไทยออก 2,630 ล้านบาท) คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2566 เป็นต้น


ส่วนการจัดทำงบประมาณปี 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้นโยบายทุกหน่วยงานในสังกัดให้เร่งเสนอตัวเลขวงเงินงบประมาณที่จะขอรับจัดสรรภายในต้นปี 2563   โดยในส่วนของกรมทางหลวง การจัดทำงบประมาณปี 2564 ส่วนหนึ่งจะมุ่งเน้นงานด้านความปลอดภัยของถนนหลวง เช่น การลงทุนติดตั้งราวกันอันตราย (Guard rail) ป้องกันอุบัติเหตุรถหลุดทางชนต้นไม้ใหญ่ ซึ่งอุบัติเหตุลักษณะดังกล่าวหลายครั้ง ทำให้ผู้ประสบเหตุต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยคาดว่าการติดตั้ง Guard rail  และระบบไฟแสงสว่างทั่วประเทศในปีงบประมาณ 2564  จะใช้วงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้