รัฐบาลเคาะ 4 มาตรการ เร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 65

ทำเนียบ 25 ธ.ค.-รัฐบาล เคาะ 4 มาตรการ เร่งรัดส่วนราชการ เจ้าของโครงการ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ รัฐวิสาหกิจ เบิกจ่ายงบปี 2565 ให้การใช้จ่ายและลงทุนรัฐเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจจากความไม่แน่นอนของโควิด-19

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน และส่วนของประเทศไทยรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้แนวนโยบายกับทุกกระทรวงและหน่วยงานรัฐว่าการใช้จ่ายและลงทุนของภาครัฐจะยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจประเทศในช่วงที่ยังมีความไม่แน่ใจจากสถานการณ์โรคระบาด


ล่าสุด คณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ กระทรวงการคลัง ได้มีมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อให้กระทรวง หน่วยรับงบประมาณ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ถือปฏิบัติ

“นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ กระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด เพื่อให้งบประมาณรัฐเป็นเครื่องมือดูแลเศรษฐกิจจากความไม่แน่นอน และช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว  


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า มาตรการที่คณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณฯ เสนอมี 4 ข้อ ประกอบด้วย  

1.กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐปี 2565 โดยมีเป้าหมายการเบิกจ่ายภาพรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ93  การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 การเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75  

2.เพื่อเร่งรัดให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการโดยเร็ว ให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการตามแนวทางของสำนักงบประมาณ เรื่อง การจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และการอนุมัติเงินจัดสรรงปบระมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยเคร่งครัด  


สำหรับส่วนราชการและหน่วยงานที่มีเงินกันไว้เหลื่อมปีให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกันไหว้เหลื่อมปีโดยเร็ว กรณีที่หน่วยรับงบประมาณได้ก่อหน้าผูกพันไว้ก่อนสิ้นปีงปบระมาณและไม่สามารถเบิกจ่ายเงินจากคลังได้ทันภายในปีงบประมาณ ให้ขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังได้อีกไม่เกิน 6 เดือนของปีงบประมาณถัดไป เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเบิกเงินจากคลังภายหลังเวลาดังกล่าว ขอให้ทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน 6 เดือน  

3.รัฐวิสาหกิจต้องเบิกจ่ายงบลงทุนได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติเบิกจ่ายลงทุนตามมติคณะรัฐมนตรี โดยให้รัฐวิสาหกิจปรับปรุงบลงทุนระหว่างปี 2565 ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรก และปรับปรุงแผนการลงทุนให้สามารถเบิกจ่ายได้เร็วขึ้นในช่วงไตรมาสที่1 และ 2 ของปี (Front-Loaded) รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยให้กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับและติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามเป้าด้วย  

4.การเบิกจ่ายเงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (กรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาท) ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ เร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. สำหรับโครงการที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) เห็นชอบให้ยกเลิก ควรเร่งคืนกรอบวงเงินที่เหลือจ่ายให้กระทรวงการคลังสรุปกรอบวงเงินคงเหลือและนำมาบริหารจัดการเงินกู้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย