กทม. 12 ก.ย.-นายกรัฐมนตรี เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ เป็นแรงสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดือน ก.ย. เป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มีข้อสั่งการทั้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) และในที่ประชุมคณะกรรมการชุดต่างๆ ให้ทุกหน่วยรับงบประมาณทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด
“ในช่วงที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 งบประมาณภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ และขณะนี้เป็นช่วงท้ายปีงบประมาณนายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งการเบิกจ่าย ทั้งส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง งบจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่ได้รับอนุมัติและทำสัญญาผูกพันไปแล้ว เพื่อให้งบประมาณเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจมากที่สุด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณภายใต้ พ.ร.ก. เงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ฉบับแรก วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือน ส.ค. 2564 มีการอนุมัติแล้วใน 269 โครงการ วงเงินรวม 996,008 ล้านบาท หรือร้อยละ 99.60 คงเหลือ 3,991.06 ล้านบาท
มีการเบิกจ่ายแล้ว 841,307 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.47ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติแยกเป็นการเบิกจ่ายใน 1)แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข กรอบวงเงิน 63,898 ล้านบาท จำนวน 51 โครงการ 38,069 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 59.58 2)แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกรและผู้ประกอบการ กรอบวงเงิน 708,197 ล้านบาท จำนวน 20 โครงการ 684,411 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 96.64 และ 3)แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม กรอบวงเงิน 227,905 ล้านบาท จำนวน 225 โครงการ 118,827 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.07
“ครม.เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 ยังได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กำกับติดตามหน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. ให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตาม พ.ร.ก.เงินกู้ฯ ภายใต้แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ หากในกรณีที่เห็นว่าไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดให้เร่งจัดทำรายงาน ปัญหาและอุปสรรคเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ฯ ทราบต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย