ปฏิบัติ “Warroom IAC” เปิดเกมรุกยึดเงินคืนผู้เสียหาย ได้เงินคืน 32.25%

11 ก.ย. – “Warroom IAC” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเกมรุกยึดเงินคืนผู้เสียหาย ได้เงินคืน 32.25%


พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) หรือ International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. แถลงผลการปฏิบัติของ “Warroom IAC” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการกวาดล้างเครือข่าย ระงับบัญชี ติดตามเงินคืนผู้เสียหาย ตามปฏิบัติการ “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)/ที่ปรึกษา ศกค. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลง ณ ห้อง “Warroom IAC” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้เดินหน้าขับเคลื่อน “Warroom IAC” ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และการเงิน ทั้งในประเทศและหน่วยงานระหว่างประเทศ อาทิ UNODC, FBI และ Interpol รวมทั้งหน่วยงานบังคับใช้กฏหมายของประเทศตาางๆ เพื่อจัดการปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างบูรณาการ ผลการปฏิบัติการของ “Warroom IAC” ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายการเงินการธนาคารของสถาบันการเงินต่างๆ สามารถดำเนินการตรวจสอบและอายัดบัญชีของเคสที่ส่งเข้ามาในวอร์รูม โดยตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม – 10 กันยายน 2568 มีจำนวนเคสที่นำเข้าวอร์รูม 582 เคส มูลค่าความเสียหายรวม 335,932,861 บาท จากการดำเนินการของวอร์รูม สามารถอายัดได้ 267 เคส (45.88%) มูลค่าทรัพย์สินที่อายัดได้ 108,329,038 บาท (32.25%) มีการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 90 ราย (ไทย 65 ราย ต่างชาติ 25 ราย) มีการออกหมายจับ 47 ราย และช่วยเหลือผู้เสียหายที่ไม่รู้ตัว 2 ราย


ในโครงการ “MONEY CASH BACK” ดำเนินการไปแล้ว 40 ครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 239 ล้านบาท โดยล่าสุดสามารถติดตามเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงิน และสามารถดำเนินการตามขั้นตอนจนสามารถนำเงินคืนผู้เสียหายได้อีก จำนวน 3 ราย ดังนี้

รายที่ 1 : ผู้เสียหายต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดและการลงทุนด้านต่างๆ จึงได้ค้นหาข้องมูลผ่านเฟซบุ๊ก จนได้พบกับเพจมิจฉาชีพที่โพสต์แนะนำเกี่ยวกับการลงทุน โดยแอบอ้างชื่อ “นายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี” นักลงทุนชื่อดังเป็นผู้ชักชวนลงทุน ผู้เสียหายสนใจจึงกดลิงก์ใต้โพสต์ดังกล่าว และเข้าร่วมกลุ่มไลน์ชื่อ “MARKET MASTERMIND 26” พบว่ากลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกประมาณ 500 คน จากนั้นได้มีการสอนเกี่ยวกับการดูกราฟการลงทุน เมื่อเรียนรู้แล้วผู้เสียหายจึงสนใจร่วมลงทุน คนร้ายจึงแนะนำให้เข้าเว็บไซต์ macqconnect .com แล้วเริ่มโอนเงินลงทุนในครั้งแรก จำนวน 100,000 บาท ปรากฎว่าได้รับกำไรเป็นเงินจำนวน 32,315.92 บาท ประกอบกับบัญชีธนาคารที่คนร้ายให้โอนเงินไปร่วมลงทุนเป็นบัญชีบริษัท (ม้านิติบุคคล) จึงทำให้หลงเชื่ออย่างสนิทใจ ต่อมาผู้เสียหายจึงโอนเงินไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงธันวาคม 2567 ถึงกุมภาพันธ์ 2568 รวมจำนวน 16 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 12,650,000 บาท (9 บัญชี 4 ธนาคาร 6 ผู้ต้องหา 7 บริษัท) ต่อมาผู้เสียหายเห็นเลขกำไรรวมทุนในระบบเป็นจำนวน 18,553,991.92 บาท จึงต้องการถอนเงินออก ปรากฏว่าระบบให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มจำนวน 1,000,000 บาท จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก และเข้าแจ้งความในเวลาต่อมา
จากกรณีดังกล่าว กก.2 บก.สอท.1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนติดตามผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วบางส่วน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของบริษัท ไอซีเอพี พรีเมี่ยม จำกัด ของนายณฐภัทรฯ หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าว และเจ้าหน้าที่สามารถอายัดไว้ได้ จำนวน 1,000,000 บาท

รายที่ 2 : ผู้เสียหายได้พบเพจเฟซบุ๊กที่ให้ความรู้เรื่องการลงทุนหุ้น ชื่อบัญชี “Dr.Tiraphong” ต่อมาผู้เสียหายสนใจลงทุนจึงแอดไลน์ชื่อ “Gale Guide” ซึ่งผู้ใช้ไลน์ได้แสดงตนเป็นผู้ช่วยของ Dr.Tiraphong อ้างว่าจะมาให้ความรู้ ต่อมาคนร้ายจึงดึงผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ “Thai stock” ซึ่งในกลุ่มมีสมาชิก 19 คน ได้พูดคุยเกี่ยวกับการลงทุนต่างๆ ทำให้หลงเชื่อว่ามีการลงทุนจริงๆ ผู้เสียหายจึงโหลดแอปพลิเคชัน GBE MAX ลงในโทรศัพท์เพื่อใช้โอนเงินลงทุน แล้วได้โอนเงินเพื่อลงทุนไปทั้งหมด 9 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 2,335,484.82 บาท แต่เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงินออกจากในระบบ ปรากฏว่าไม่สามารถถอนได้ จึงได้เข้าแจ้งความในเวลาต่อมา


จากกรณีดังกล่าว กก.3 บก.สอท.1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนติดตามผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วบางส่วน และสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายสุพินิดฯ หนึ่งในผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวตามที่ถูกหลอกลวง จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 598,041.82 บาท

รายที่ 3 : ผู้เสียหายรายหนึ่งพบโฆษณาบนเฟซบุ๊ก ชักชวนให้ผู้เสียหายเข้าร่วมกลุ่มไลน์เพื่อขายเสื้อผ้ามือสองของผู้เสียหาย ต่อมาคนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินทำภารกิจเพื่อลงทะเบียนร้านค้า และเปิดการมองเห็น โดยอ้างว่าสามารถถอนเงินได้ภายหลังเมื่อทำภารกิจสำเร็จ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงิน ปรากฏว่าใน 2 ครั้งแรก ได้รับเงินกลับคืนมาจริง จึงมั่นใจว่าทำแล้วได้เงิน จึงได้โอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้งไปยังบัญชีธนาคารปลายทางทั้งหมด จำนวน 12 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 2,319,729.40 บาท แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินกลับคืนมาได้ จึงได้เข้าแจ้งความในเวลาต่อมา

จากกรณีดังกล่าว กก.1 บก.สอท.2 ได้ใช้ชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนในสังกัด รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการ จนสามารถออกหมายจับได้แล้วหลายราย โดยล่าสุดสืบสวนพบว่า นายสุภวัชฯ อายุ 26 ปี หนึ่งในขบวนการ ได้ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำพิเศษพัทยา พนักงานสอบสวนจึงได้อายัดตัวเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา

จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายสุภวัชฯ ไว้ได้ จำนวน 399,527.20 บาท เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพว่าได้นำบัญชีไปให้ผู้อื่นใช้งาน โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ จึงขอไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย จึงอายัดไว้ได้ทั้งสิ้น 399,527.20 บาท

วันนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี ได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 1,997,569.02 บาท คืนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ตามโครงการ “MONEY Cash Back” ของ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) หรือ International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) โดยปฏิบัติการ “MONEY Cash Back” นี้ จะดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และช่วยเหลือผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงินให้ได้มากขึ้น.-412- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]

จนท.เทศบาล ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – ยื้อไม่ไหว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ถูกดินถล่มทับระหว่างสำรวจรอยรั่วท่อระบายน้ำ เสียชีวิตแล้ว นาทีชีวิตขณะนายประเสริฐ วัย 56 ปี หัวหน้าก่อสร้างกองช่าง เทศบาลเมืองดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงไปตรวจสอบท่อระบายน้ำใต้ถนนในโครงการห้วยตึงเฒ่า หลังมีน้ำรั่วซึมจนเกิดโพรงใต้ดิน ทำให้ถนนทรุดตัว แต่ขณะตรวจดูท่อ ดินบนถนนเกิดทรุดตัวลงมาทับนายประเสริญ ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำรถแบ็กโฮขุดดินออก ใช้เวลา 10 กว่านาที จึงนำร่างของนายประเสริฐออกมาได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐเสียชีวิตแล้ว พบหลังกระดูกหักหลายจุด ซี่โครงทิ่มปอดและม้าม ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายประเสริฐเป็นคนที่ทุ่มเทกับงาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ด้านนายเกรียงไกร จันณะคำ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองดอนแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายประเสริฐ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนายประเสริฐลงไปดูจุดท่อรั่วรอบแรกเพื่อหาสาเหตุ ก่อนจะซ่อมถนนและกลบดิน แต่รอบที่สอง นายประเสริฐลงไปดูเองอีกรอบ จนดินด้านบนถล่มลงมาทับ หลังเกิดเหตุเร่งช่วยเหลือนายประเสริฐอย่างเต็มกำลังและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายประเสริฐยังรู้สึกตัว จนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตเมื่อตี […]