กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กกร.ต้้งข้อสังเกตไทยส่งทองคำไปกัมพูชามากผิดปกติ ชี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า ห่วงเอี่ยวธุรกิจใต้ดิน
จากกรณีเงินบาทแข็งค่ารวดเร็วและรุนแรง เป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 พบว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 7% นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ ซึ่งสวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติบางอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของการส่งออกทองคำไปกัมพูชาที่สูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า โดยในรายงานส่งออกสินค้าไปยังประเทศกัมพูชา พบหมวดสินที่มีการส่งออกสูง คือ อัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่ง กกร.ตั้งข้อสังเกตว่า กัมพูชาเป็นประเทศเล็กๆ แต่ทำไมจึงมีการนำเข้าสินค้าประเภทนี้ค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อดูในรายละเอียดกลับพบว่าส่วนใหญ่เป็นทองคำ
“เราทราบกันดีว่ากัมพูชามีปัญหาในเรื่องของสแกมเมอร์ ค่อนข้างเยอะจึงทำให้ กกร.ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมประเทศไทยส่งออกทองคำไปกัมพูชามากผิดปกติ และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า และทำให้มีข้อสงสัยและมีข้อกังวลว่าจะเกี่ยวกับธุรกิจใต้ดินหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามและจับตาดูต่อไป”
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการตั้งข้อสังเกตซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ กกร.ยังไม่ได้ยืนยัน 100% แต่เรื่องนี้อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คาดไม่ถึงเพราะเป็นเศรษฐกิจนอกระบบ ตัวเลขการส่งออกทองคำไปยังกัมพูชานั้นอยู่ที่หลักหมื่นล้านบาท ซึ่งปกติที่ผ่านมาตัวเลขจะไม่เยอะเท่านี้ ซึ่งหากมองในความเป็นจริงเศรษฐกิจไทยไม่ดี และ กนง.ลดดอกเบี้ยไป 0.25 แล้ว เงินบาทต้องอ่อนค่าแต่กลับแข็งขึ้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันผิดปกติไปหมด” นายเกรียงไกร กล่าว. -517-สำนักข่าวไทย