คมนาคมจัดระบบขนส่งรับ Moto GP 2019

บุรีรัมย์ 4 ต.ค. – พร้อมแล้ว!! คมนาคมยืนยันความพร้อมรองรับการเดินทางเข้าชมการแข่งขันโมโตจีพี 2019 บุรีรัมย์ เพิ่มเที่ยวบิน รถไฟ รถโดยสาร รองรับนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคน


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมแผนรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมการแข่งขัน  Moto GP 2019 ระหว่างวันที่  4 – 6 ตุลาคม สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศเดินทางมาเข้าชมการแข่งขัน ไม่น้อยกว่า  200,000  คน โดยได้ถอดบทเรียนจากงานปีที่ผ่านมา และบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกให้แก่นักแข่งจักรยานยนต์ในการเดินทางและขนส่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแข่งขัน รวมถึงผู้เข้าชมการแข่งขันให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย

สำหรับการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกการเดินทางนั้น กรมทาอากาศยาน (ทย.) ได้เตรียมแผนรองรับเที่ยวบินพิเศษ ( Extra flight) เพิ่มขึ้น ทำแผนผังพื้นที่เช็กอิน จัดพื้นที่พักคอยของผู้โดยสาร เส้นทางเข้า – ออก อาคาร กำหนดพื้นที่รับ – ส่งผู้โดยสาร จุดจอดรถเช่า พร้อมตรวจสอบเครื่องมือและอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้พร้อมใช้งานและเพียงพอตามมาตรการรักษาความปลอดภัยและแผนฉุกเฉินของท่าอากาศยาน ขณะเดียวกันได้ทำงานร่วมกับกรมศุลกากรด้าน CIQ (ผู้โดยสารขาออกที่ผ่านพิธีการศุลกากร (Custom) การตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) และผ่านด่านตรวจกักกันพืชและสัตว์ (Quarantine) เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย


ขณะที่ทางราง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มเที่ยวรถไฟพิเศษจากสถานีหัวลำโพงไปยังสถานีบุรีรัมย์ เพิ่มรถไฟ Sprinter จากจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงมายัง จ.บุรีรัมย์ และจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์ไปยังสนามแข่งโดยตรง ซึ้งปัจจุบัน มีเที่ยวรถไปยัง จ.บุรีรัมย์ 58 ขบวน (รองรับผู้โดยสารได้ถึง 21,500 คน/วัน) และสามารถพ่วงตู้โดยสารได้จนเต็มหน่วยลากจูงเพื่อรองรับผู้โดยสารได้อีก 5,000 คน/วัน อำนวยความสะดวกการจองบัตรโดยสารผ่าน Application และการจ่ายค่าโดยสารด้วยระบบ QR code นอกจากนี้ สถานีรถไฟบุรีรัมย์เตรียมพื้นที่จอดรถ การปรับปรุงอาคารและบริเวณรอบสถานี โทรศัพท์สาธารณะ ป้ายบอกทาง ห้องน้ำ การปรับปรุงภูมิทัศน์ การจัดพื้นที่บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการ เพิ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายการบริการ จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด

ส่วนกรมทางหลวง (ทล.) ก่อสร้างขยายช่องจราจรเส้นทางสายบุรีรัมย์-นางรอง ตอน บ.สระสี่เหลี่ยม – บ.โคกสีพัฒนาเป็น4ช่องจราจร และเส้นทางทล. 2445 บุรีรัมย์ – แสลงโทน เป็น 6 ช่องจราจร พร้อมบูรณะผิวทางเดิม เช่น ตอนถนนวงแหวนรอบเมืองบุรีรัมย์ ขณะที่กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ปรับปรุงบริเวณคอขวดไหล่ทาง สาย บร.3048 แยก ทล. 226 บ.สง่างาม อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งติดตั้งป้ายบอกทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางรอง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรติดขัดในเส้นทางหลัก 

สำหรับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพิ่มเที่ยวรถโดยสารให้เพียงพอกับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางกรุงเทพ – บุรีรัมย์ เพิ่มเที่ยวรถทั้งไป-กลับอีก 16 เที่ยว/วัน จากเดิม 44 เที่ยว/วัน รวมเป็น 60 เที่ยว/วัน ประกอบดัวยรถ บขส. 20 เที่ยว และรถร่วมบริการ 40 เที่ยว


ทั้งนี้ หากรถโดยสารไม่เพียงพอต่อการให้บริการจะนำรถโดยสาร ไม่ประจำทางมาวิ่งรับ – ส่งด้วย ส่วนเส้นทางนครราชสีมา – บุรีรัมย์จะมีเที่ยวรถให้บริการ ไป – กลับ รวมบริการ 120 เที่ยว/วัน แบ่งเป็นรถ บขส. 18 เที่ยว และรถตู้ 102 เที่ยว สำหรับรถโดยสารประจำทางหมวด 3 ที่มีเส้นทางผ่าน จ.บุรีรัมย์ อีก 10 เส้นทาง เช่น สาย 275 ร้อยเอ็ด – บุรีรัมย์, สาย 281 ขอนแก่น – สุรินทร์, สาย 522 บุรีรัมย์ – จันทบุรี, สาย 587อุบลราชธานี – เชียงใหม่,สาย 588 ระยอง – อุบลราชธานี  สาย 589 พัทยา – อุบลราชธานี, สาย 832 ภูเก็ต – อุบลราชธานี  โดยได้เน้นย้ำให้ตรวจสภาพรถให้มีความพร้อมใช้งาน รวมทั้งตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติหน้าที่  นอกจากนี้ ยังมีจัดเตรียมรถ Shuttle Bus รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว เพื่อเชื่อมโยงจากท่าอากาศยาน สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ โรงแรมหลัก ๆ และจุดสำคัญภายใน จ.บุรีรัมย์ ไปยังสถานที่จัดงาน

กรมการขนส่งทางบกร่วมกับจังหวัดอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่จะเข้าชมการแข่งขัน โดยจัดเตรียมรถ shuttle bus การจัดรถโดยสาร 4 เส้นทางไปยังสนามแข่งขัน ได้แก่ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ,สถานีรถไฟบุรีรัมย์, สถานีขนส่งบุรีรัมย์ และ อบจ.บุรีรัมย์ และเส้นทาง Loop 3 เส้นทาง ได้แก่ วงเวียน ร.1 – สนามช้างฯ / เรือนจำ – แยกภัทร / และแยกภัทร – แยกกระสัง 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ย้ำว่า การจัดงาน Moto GP 2019 ซึ่งเป็นกีฬาแข่งขันความเร็วระดับโลก นอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ และเยาวชนที่รักกีฬาความเร็ว เรียนรู้การแข่งขันที่ถูกต้องในสนาม  ไม่ไปใช้ความเร็วบนท้องถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุและความไม่ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง