“อนุทิน” เผยไม่อยากถูกฟ้องภายหลัง

ทำเนียบ 10 ก.พ.- “อนุทิน” ระบุภูมิใจไทยเห็นต่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่เกี่ยวสัมพันธ์รัฐบาล ชี้หากยังเดินหน้าต่อจะขอโหวตโนใน ครม. แจงไม่อยากถูกฟ้องภายหลัง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(8 ก.พ.) ว่า ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว และรายละเอียดขอให้ไปถาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดแล้ว และเมื่อกระทรวงคมนาคมทำความเห็นออกมา ฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถคลายความวิตกกังวลและข้อสงสัยของกระทรวงคมนาคมได้ ก็สามารถดำเนินต่อไปได้


นายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่จะไม่เห็นชอบว่าจะต่อหรือไม่ต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ต้องการให้เกิดความชัดเจนและขอให้ทำตามขั้นตอนที่ทางฝ่ายกฎหมายของกระทรวงคมนาคมเห็นว่ายังขาดช่วงอยู่ คือเรื่องของการรับโอนทรัพย์สินจาก รฟม.มาเป็นของ กทม. ซึ่งเป็นส่วนเดียวที่กระทรวงคมนาคมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

นายอนุทิน ระบุด้วยว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นความเห็นเรื่องของการทำงาน ที่ไม่ตรงกัน ซึ่งการทำงานมีสิทธิ์ที่จะเห็นไม่ตรงกันได้ และยังหากไม่ตรงกันก็ต้องใช้วิธีลงมติ หากต้องการให้ความเห็นนี้เดินหน้าต่อไปได้เพราะคนที่ไม่เห็นด้วย ก็มีสิทธิ์ที่จะสงวนสิทธิ์ความเห็น เช่นที่พรรคภูมิใจไทยได้ดำเนินการมา


“ไม่ได้เป็นการขัดขวาง แต่การที่ไม่เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะเห็นว่ามีการบรรจุวาระนี้มาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งได้แจ้งนายกรัฐมนตรีล่วงหน้าแล้วว่ามีความลำบากใจในประเด็นนี้หากมีประเด็นดังกล่าวเข้ามา และจะไม่มีการโต้เถียงหรือปะทะคารมกัน พรรคภูมิใจไทยจึงได้ทำความเห็นเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนแจ้งไป ย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้น รัฐมนตรี ภูมิใจไทยไม่ร่วมประชุมในวันอังคารไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกฝ่ายรับทราบก่อนแล้ว ทั้งนายกรัฐมนตรี ทีมงานได้มีการประสานงานชี้แจงกันอยู่ตลอดเวลา ภูมิใจไทยตรงไปตรงมาไม่ได้เล่นแง่อะไร”นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า การไม่เห็นด้วยของรัฐมนตรีในพรรคภูมิใจไทยทั้ง7 คนเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าหาก ไม่ทำตามที่ภูมิใจไทยเสนอก็จะไม่เดินไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลไหนก็ตามไม่ใช่แค่รัฐบาลนี้ไม่ใช่จะทำแบบพวกมากลากไป ใครอยากจะทำอะไรก็ทำได้หากคิดเช่นนั้นได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องมีการหารือกันในรัฐบาลหากมีประเด็นที่ค้างก็แก้ไขให้ถูกต้องให้ทุกฝ่ายรับได้ แต่ถ้ารับไม่ได้จริงๆก็ต้องโหวตนั่นคือทางออก อีกทั้งพรรคภูมิใจไทยก็เห็นว่าคณะรัฐมนตรีมีทั้งหมด 36 คน หากมีการโหวตอย่างไร เราก็ไม่ชนะ เราจึงใช้วิธีทำเป็นหนังสือเพื่อสงวนในสิทธิ์ของเรา และแจ้งนายกรัฐมนตรี

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า แต่หากหากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเรื่องนี้ต้องผ่าน ก็คงต้องผ่านมติ ครม.แต่หากนำไปปฏิบัติ และมีปัญหาเรื่องการร้องเรียน คดีความต่างๆ ตามมาภายหลัง คณะรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบ แต่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยทั้ง7คนได้มีหนังสือยืนยันแล้วว่าหากภายใต้เงื่อนไขนี้เราไม่เห็นด้วย แต่หากมีการปรับปรุง เราก็ยินดี


รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการถ่ายโอนหรือการแก้ไขสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว หากทำถูกต้อง ลำดับแรกคือการถ่ายโอน ขณะนี้เป็นสมบัติของ รฟม.อยู่ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ดังนั้นหากกรุงเทพมหานครจะนำไปแก้ไขสัญญาโดยหลักความเข้าใจทั่วไปจะต้องรับโอนให้เรียบร้อย รฟม.พร้อมโอนมานานแล้วหากโอนให้เป็นของกรุงเทพมหานครก็เข้ามาดำเนินการต่อได้ จุดไหนดำเนินการได้ก็ดำเนินการเลยและจุดไหนต้องใช้มติครม.ก็นำมาพิจารณากัน

“ขอให้ดูวาระให้ดีก่อนที่จะไปเขียนเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะวาระนี้เป็นเรื่องเพื่อพิจารณา เพราะฉะนั้นคณะรัฐมนตรีทุกคนก็มีความรับผิดชอบส่วนบุคคล ก็พิจารณาใครพิจารณาอย่างไร ก็ทำความเห็นไปเท่านั้น ไม่มีอะไรไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลเพราะความสัมพันธ์ยังดีแน่นปึ๊ก”นายอนุทิน กล่าว

ส่วนสัญญาณดังกล่าวหลายฝ่ายมองว่าเหมือนใกล้ที่จะยุบสภาแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ถามกลับว่า คนที่ให้ความเห็นอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ได้มีโอกาสคุยไลน์ระหว่างกันกับนายกรัฐมนตรี หรือไม่ มีการประสานงานในกลุ่มไลน์คณะรัฐมนตรีหรือไม่ รู้มากแค่ไหนเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญ ที่เกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องหรือต่อรองอะไร เพราะหากต่อรองไม่ใช่แค่7 คนหรอก

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ในรัฐสภาวานนี้ (9 ก.พ.) ที่มีการพูดคุยกับพรรคเศรษฐกิจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ไปถามร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เพราะวานนี้ตนเดินผ่านจะไม่ทักได้อย่างไร ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน แค่นี้ก็เอาไปเป็นเรื่องเป็นราว

ทั้งนี้มองท่าทีของพรรคเศรษฐกิจไทยที่เป็นแบบนี้โดยเฉพาะทิศทางการโหวตต่างๆจะทำให้รัฐบาลตายกลางสภาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่บอกว่าจะยุบสภา ตนยืนยันคำนี้ว่า เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สิ่งที่ทำไปเมื่อวันอังคารคือการทำหน้าที่และเลือกที่จะทำหน้าที่เพื่อหลีกเลี่ยงการโต้เถียงการที่จะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องการทำงานของแต่ละคนไม่ใช่นักบู๊แต่ใช้สติในการทำงาน

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าจะมีบรรยากาศอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว หลังจากที่เราได้มีการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน สาธารณะชนได้รับทราบ จากนี้ไปจะเข้าประชุม ครม.ตามปกติ และพร้อมที่จะรับฟังความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่จะมีการซักถามหรือโต้แย้ง หากไปถึงระดับหนึ่งนายกรัฐมนตรี เห็นว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการต่อ ท่านก็สามารถสั่งการได้ จะลงมติหรือจะดำเนินการอย่างไรก็ตามแต่ ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยได้แสดงให้เห็นว่าเราลงให้แล้ว เราหมอบให้แล้ว ในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการที่จะต้องมีความเห็นไม่ตรงกันต่อหน้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและขณะนี้ได้เคลียร์กันหมดแล้วก็เดินหน้าประชุมตามปกติเมื่อถึงเวลาโหวตแล้วไม่แก้ไขอะไรเราก็โหวตโน แต่หากมีการแก้ไขทุกอย่าง ไม่มีความกังวล ว่าจะมีปัญหาตามมาหลังจากพ้นตำแหน่ง และถูกต้องตามกระบวนการมีการโอนเรียบร้อยประชาชนได้รับประโยชน์ ค่ารถค่าโดยสารถูกลง เราจะเร่งให้รีบโอนให้ทำให้สำเร็จโดยเร็ว เรื่องมีแค่นี้

เมื่อถามว่าไม่ใช่เป็นข้อเสนอที่ต้องการให้นายกฯ เลือก ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์ และนายอนุทิน หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์ กับ อนุทิน ไม่ต้องถามว่านายกรัฐมนตรีจะเลือกใคร เพราะท่านเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นไม่ต้องถาม รู้สี่รู้แปดภาษาจีนเรียก”อู่โต่อู่โส่ย” คือ รู้ใหญ่รู้เล็กมันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับตรงนั้น คนละเรื่องกันถามออกทะเลแล้วไม่ต้องการให้เลือก ขอให้เลือกประชาชน

นายอนุทิน กล่าวว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมา มีหลายคดีที่รัฐมนตรีต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องดำเนินคดี ต้องไปร่วมฟังคำพิพากษาของศาล เช่นคดีกล้ายาง คดีctx และ คดีหวยบนดิน ซึ่งไม่มีความสุขเลย และเข็ดแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอ .-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]