fbpx

“อนุทิน” เผยไม่อยากถูกฟ้องภายหลัง

ทำเนียบ 10 ก.พ.- “อนุทิน” ระบุภูมิใจไทยเห็นต่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่เกี่ยวสัมพันธ์รัฐบาล ชี้หากยังเดินหน้าต่อจะขอโหวตโนใน ครม. แจงไม่อยากถูกฟ้องภายหลัง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(8 ก.พ.) ว่า ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว และรายละเอียดขอให้ไปถาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดแล้ว และเมื่อกระทรวงคมนาคมทำความเห็นออกมา ฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถคลายความวิตกกังวลและข้อสงสัยของกระทรวงคมนาคมได้ ก็สามารถดำเนินต่อไปได้


นายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่จะไม่เห็นชอบว่าจะต่อหรือไม่ต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ต้องการให้เกิดความชัดเจนและขอให้ทำตามขั้นตอนที่ทางฝ่ายกฎหมายของกระทรวงคมนาคมเห็นว่ายังขาดช่วงอยู่ คือเรื่องของการรับโอนทรัพย์สินจาก รฟม.มาเป็นของ กทม. ซึ่งเป็นส่วนเดียวที่กระทรวงคมนาคมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

นายอนุทิน ระบุด้วยว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นความเห็นเรื่องของการทำงาน ที่ไม่ตรงกัน ซึ่งการทำงานมีสิทธิ์ที่จะเห็นไม่ตรงกันได้ และยังหากไม่ตรงกันก็ต้องใช้วิธีลงมติ หากต้องการให้ความเห็นนี้เดินหน้าต่อไปได้เพราะคนที่ไม่เห็นด้วย ก็มีสิทธิ์ที่จะสงวนสิทธิ์ความเห็น เช่นที่พรรคภูมิใจไทยได้ดำเนินการมา


“ไม่ได้เป็นการขัดขวาง แต่การที่ไม่เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะเห็นว่ามีการบรรจุวาระนี้มาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งได้แจ้งนายกรัฐมนตรีล่วงหน้าแล้วว่ามีความลำบากใจในประเด็นนี้หากมีประเด็นดังกล่าวเข้ามา และจะไม่มีการโต้เถียงหรือปะทะคารมกัน พรรคภูมิใจไทยจึงได้ทำความเห็นเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนแจ้งไป ย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้น รัฐมนตรี ภูมิใจไทยไม่ร่วมประชุมในวันอังคารไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกฝ่ายรับทราบก่อนแล้ว ทั้งนายกรัฐมนตรี ทีมงานได้มีการประสานงานชี้แจงกันอยู่ตลอดเวลา ภูมิใจไทยตรงไปตรงมาไม่ได้เล่นแง่อะไร”นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า การไม่เห็นด้วยของรัฐมนตรีในพรรคภูมิใจไทยทั้ง7 คนเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าหาก ไม่ทำตามที่ภูมิใจไทยเสนอก็จะไม่เดินไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลไหนก็ตามไม่ใช่แค่รัฐบาลนี้ไม่ใช่จะทำแบบพวกมากลากไป ใครอยากจะทำอะไรก็ทำได้หากคิดเช่นนั้นได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องมีการหารือกันในรัฐบาลหากมีประเด็นที่ค้างก็แก้ไขให้ถูกต้องให้ทุกฝ่ายรับได้ แต่ถ้ารับไม่ได้จริงๆก็ต้องโหวตนั่นคือทางออก อีกทั้งพรรคภูมิใจไทยก็เห็นว่าคณะรัฐมนตรีมีทั้งหมด 36 คน หากมีการโหวตอย่างไร เราก็ไม่ชนะ เราจึงใช้วิธีทำเป็นหนังสือเพื่อสงวนในสิทธิ์ของเรา และแจ้งนายกรัฐมนตรี

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า แต่หากหากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเรื่องนี้ต้องผ่าน ก็คงต้องผ่านมติ ครม.แต่หากนำไปปฏิบัติ และมีปัญหาเรื่องการร้องเรียน คดีความต่างๆ ตามมาภายหลัง คณะรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบ แต่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยทั้ง7คนได้มีหนังสือยืนยันแล้วว่าหากภายใต้เงื่อนไขนี้เราไม่เห็นด้วย แต่หากมีการปรับปรุง เราก็ยินดี


รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการถ่ายโอนหรือการแก้ไขสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว หากทำถูกต้อง ลำดับแรกคือการถ่ายโอน ขณะนี้เป็นสมบัติของ รฟม.อยู่ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ดังนั้นหากกรุงเทพมหานครจะนำไปแก้ไขสัญญาโดยหลักความเข้าใจทั่วไปจะต้องรับโอนให้เรียบร้อย รฟม.พร้อมโอนมานานแล้วหากโอนให้เป็นของกรุงเทพมหานครก็เข้ามาดำเนินการต่อได้ จุดไหนดำเนินการได้ก็ดำเนินการเลยและจุดไหนต้องใช้มติครม.ก็นำมาพิจารณากัน

“ขอให้ดูวาระให้ดีก่อนที่จะไปเขียนเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะวาระนี้เป็นเรื่องเพื่อพิจารณา เพราะฉะนั้นคณะรัฐมนตรีทุกคนก็มีความรับผิดชอบส่วนบุคคล ก็พิจารณาใครพิจารณาอย่างไร ก็ทำความเห็นไปเท่านั้น ไม่มีอะไรไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลเพราะความสัมพันธ์ยังดีแน่นปึ๊ก”นายอนุทิน กล่าว

ส่วนสัญญาณดังกล่าวหลายฝ่ายมองว่าเหมือนใกล้ที่จะยุบสภาแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ถามกลับว่า คนที่ให้ความเห็นอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ได้มีโอกาสคุยไลน์ระหว่างกันกับนายกรัฐมนตรี หรือไม่ มีการประสานงานในกลุ่มไลน์คณะรัฐมนตรีหรือไม่ รู้มากแค่ไหนเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญ ที่เกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องหรือต่อรองอะไร เพราะหากต่อรองไม่ใช่แค่7 คนหรอก

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ในรัฐสภาวานนี้ (9 ก.พ.) ที่มีการพูดคุยกับพรรคเศรษฐกิจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ไปถามร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เพราะวานนี้ตนเดินผ่านจะไม่ทักได้อย่างไร ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน แค่นี้ก็เอาไปเป็นเรื่องเป็นราว

ทั้งนี้มองท่าทีของพรรคเศรษฐกิจไทยที่เป็นแบบนี้โดยเฉพาะทิศทางการโหวตต่างๆจะทำให้รัฐบาลตายกลางสภาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่บอกว่าจะยุบสภา ตนยืนยันคำนี้ว่า เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สิ่งที่ทำไปเมื่อวันอังคารคือการทำหน้าที่และเลือกที่จะทำหน้าที่เพื่อหลีกเลี่ยงการโต้เถียงการที่จะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องการทำงานของแต่ละคนไม่ใช่นักบู๊แต่ใช้สติในการทำงาน

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าจะมีบรรยากาศอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว หลังจากที่เราได้มีการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน สาธารณะชนได้รับทราบ จากนี้ไปจะเข้าประชุม ครม.ตามปกติ และพร้อมที่จะรับฟังความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่จะมีการซักถามหรือโต้แย้ง หากไปถึงระดับหนึ่งนายกรัฐมนตรี เห็นว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการต่อ ท่านก็สามารถสั่งการได้ จะลงมติหรือจะดำเนินการอย่างไรก็ตามแต่ ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยได้แสดงให้เห็นว่าเราลงให้แล้ว เราหมอบให้แล้ว ในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการที่จะต้องมีความเห็นไม่ตรงกันต่อหน้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและขณะนี้ได้เคลียร์กันหมดแล้วก็เดินหน้าประชุมตามปกติเมื่อถึงเวลาโหวตแล้วไม่แก้ไขอะไรเราก็โหวตโน แต่หากมีการแก้ไขทุกอย่าง ไม่มีความกังวล ว่าจะมีปัญหาตามมาหลังจากพ้นตำแหน่ง และถูกต้องตามกระบวนการมีการโอนเรียบร้อยประชาชนได้รับประโยชน์ ค่ารถค่าโดยสารถูกลง เราจะเร่งให้รีบโอนให้ทำให้สำเร็จโดยเร็ว เรื่องมีแค่นี้

เมื่อถามว่าไม่ใช่เป็นข้อเสนอที่ต้องการให้นายกฯ เลือก ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์ และนายอนุทิน หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์ กับ อนุทิน ไม่ต้องถามว่านายกรัฐมนตรีจะเลือกใคร เพราะท่านเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นไม่ต้องถาม รู้สี่รู้แปดภาษาจีนเรียก”อู่โต่อู่โส่ย” คือ รู้ใหญ่รู้เล็กมันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับตรงนั้น คนละเรื่องกันถามออกทะเลแล้วไม่ต้องการให้เลือก ขอให้เลือกประชาชน

นายอนุทิน กล่าวว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมา มีหลายคดีที่รัฐมนตรีต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องดำเนินคดี ต้องไปร่วมฟังคำพิพากษาของศาล เช่นคดีกล้ายาง คดีctx และ คดีหวยบนดิน ซึ่งไม่มีความสุขเลย และเข็ดแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอ .-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

ข่าวแนะนำ

ความหวังแรงงานไทย ยกระดับค่าจ้างขั้นต่ำสู่ค่าจ้างเพื่อชีวิต

ทุกปีในวันแรงงาน จะมีการรวมตัวของสภาองค์การลูกจ้างและพัฒนาแรงงาน กลุ่มต่างๆ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ซึ่งปีนี้แรงงานหวังจะมีความมั่นคงในด้านระบบสวัสดิการ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

แรงงานทั่วไทยเดินขบวนเรียกร้องสิทธิจากรัฐบาล

วันที่ 1 พ.ค. ของทุกปี เป็นวันสำคัญของผู้ใช้แรงงานทั่วโลก สำหรับประเทศไทยในปีนี้ มีการจัดกิจกรรมเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลหลายจุด โดยพื้นที่หลักอยู่ที่ตลอดแนวถนนราชดำเนิน และลานคนเมือง