“อนุทิน” เผยไม่อยากถูกฟ้องภายหลัง

ทำเนียบ 10 ก.พ.- “อนุทิน” ระบุภูมิใจไทยเห็นต่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่เกี่ยวสัมพันธ์รัฐบาล ชี้หากยังเดินหน้าต่อจะขอโหวตโนใน ครม. แจงไม่อยากถูกฟ้องภายหลัง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(8 ก.พ.) ว่า ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว และรายละเอียดขอให้ไปถาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดแล้ว และเมื่อกระทรวงคมนาคมทำความเห็นออกมา ฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถคลายความวิตกกังวลและข้อสงสัยของกระทรวงคมนาคมได้ ก็สามารถดำเนินต่อไปได้


นายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่จะไม่เห็นชอบว่าจะต่อหรือไม่ต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ต้องการให้เกิดความชัดเจนและขอให้ทำตามขั้นตอนที่ทางฝ่ายกฎหมายของกระทรวงคมนาคมเห็นว่ายังขาดช่วงอยู่ คือเรื่องของการรับโอนทรัพย์สินจาก รฟม.มาเป็นของ กทม. ซึ่งเป็นส่วนเดียวที่กระทรวงคมนาคมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

นายอนุทิน ระบุด้วยว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นความเห็นเรื่องของการทำงาน ที่ไม่ตรงกัน ซึ่งการทำงานมีสิทธิ์ที่จะเห็นไม่ตรงกันได้ และยังหากไม่ตรงกันก็ต้องใช้วิธีลงมติ หากต้องการให้ความเห็นนี้เดินหน้าต่อไปได้เพราะคนที่ไม่เห็นด้วย ก็มีสิทธิ์ที่จะสงวนสิทธิ์ความเห็น เช่นที่พรรคภูมิใจไทยได้ดำเนินการมา


“ไม่ได้เป็นการขัดขวาง แต่การที่ไม่เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะเห็นว่ามีการบรรจุวาระนี้มาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งได้แจ้งนายกรัฐมนตรีล่วงหน้าแล้วว่ามีความลำบากใจในประเด็นนี้หากมีประเด็นดังกล่าวเข้ามา และจะไม่มีการโต้เถียงหรือปะทะคารมกัน พรรคภูมิใจไทยจึงได้ทำความเห็นเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนแจ้งไป ย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้น รัฐมนตรี ภูมิใจไทยไม่ร่วมประชุมในวันอังคารไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกฝ่ายรับทราบก่อนแล้ว ทั้งนายกรัฐมนตรี ทีมงานได้มีการประสานงานชี้แจงกันอยู่ตลอดเวลา ภูมิใจไทยตรงไปตรงมาไม่ได้เล่นแง่อะไร”นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า การไม่เห็นด้วยของรัฐมนตรีในพรรคภูมิใจไทยทั้ง7 คนเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าหาก ไม่ทำตามที่ภูมิใจไทยเสนอก็จะไม่เดินไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลไหนก็ตามไม่ใช่แค่รัฐบาลนี้ไม่ใช่จะทำแบบพวกมากลากไป ใครอยากจะทำอะไรก็ทำได้หากคิดเช่นนั้นได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องมีการหารือกันในรัฐบาลหากมีประเด็นที่ค้างก็แก้ไขให้ถูกต้องให้ทุกฝ่ายรับได้ แต่ถ้ารับไม่ได้จริงๆก็ต้องโหวตนั่นคือทางออก อีกทั้งพรรคภูมิใจไทยก็เห็นว่าคณะรัฐมนตรีมีทั้งหมด 36 คน หากมีการโหวตอย่างไร เราก็ไม่ชนะ เราจึงใช้วิธีทำเป็นหนังสือเพื่อสงวนในสิทธิ์ของเรา และแจ้งนายกรัฐมนตรี

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า แต่หากหากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเรื่องนี้ต้องผ่าน ก็คงต้องผ่านมติ ครม.แต่หากนำไปปฏิบัติ และมีปัญหาเรื่องการร้องเรียน คดีความต่างๆ ตามมาภายหลัง คณะรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบ แต่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยทั้ง7คนได้มีหนังสือยืนยันแล้วว่าหากภายใต้เงื่อนไขนี้เราไม่เห็นด้วย แต่หากมีการปรับปรุง เราก็ยินดี


รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการถ่ายโอนหรือการแก้ไขสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว หากทำถูกต้อง ลำดับแรกคือการถ่ายโอน ขณะนี้เป็นสมบัติของ รฟม.อยู่ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ดังนั้นหากกรุงเทพมหานครจะนำไปแก้ไขสัญญาโดยหลักความเข้าใจทั่วไปจะต้องรับโอนให้เรียบร้อย รฟม.พร้อมโอนมานานแล้วหากโอนให้เป็นของกรุงเทพมหานครก็เข้ามาดำเนินการต่อได้ จุดไหนดำเนินการได้ก็ดำเนินการเลยและจุดไหนต้องใช้มติครม.ก็นำมาพิจารณากัน

“ขอให้ดูวาระให้ดีก่อนที่จะไปเขียนเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะวาระนี้เป็นเรื่องเพื่อพิจารณา เพราะฉะนั้นคณะรัฐมนตรีทุกคนก็มีความรับผิดชอบส่วนบุคคล ก็พิจารณาใครพิจารณาอย่างไร ก็ทำความเห็นไปเท่านั้น ไม่มีอะไรไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลเพราะความสัมพันธ์ยังดีแน่นปึ๊ก”นายอนุทิน กล่าว

ส่วนสัญญาณดังกล่าวหลายฝ่ายมองว่าเหมือนใกล้ที่จะยุบสภาแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ถามกลับว่า คนที่ให้ความเห็นอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ได้มีโอกาสคุยไลน์ระหว่างกันกับนายกรัฐมนตรี หรือไม่ มีการประสานงานในกลุ่มไลน์คณะรัฐมนตรีหรือไม่ รู้มากแค่ไหนเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญ ที่เกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องหรือต่อรองอะไร เพราะหากต่อรองไม่ใช่แค่7 คนหรอก

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ในรัฐสภาวานนี้ (9 ก.พ.) ที่มีการพูดคุยกับพรรคเศรษฐกิจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ไปถามร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เพราะวานนี้ตนเดินผ่านจะไม่ทักได้อย่างไร ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน แค่นี้ก็เอาไปเป็นเรื่องเป็นราว

ทั้งนี้มองท่าทีของพรรคเศรษฐกิจไทยที่เป็นแบบนี้โดยเฉพาะทิศทางการโหวตต่างๆจะทำให้รัฐบาลตายกลางสภาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่บอกว่าจะยุบสภา ตนยืนยันคำนี้ว่า เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สิ่งที่ทำไปเมื่อวันอังคารคือการทำหน้าที่และเลือกที่จะทำหน้าที่เพื่อหลีกเลี่ยงการโต้เถียงการที่จะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องการทำงานของแต่ละคนไม่ใช่นักบู๊แต่ใช้สติในการทำงาน

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าจะมีบรรยากาศอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว หลังจากที่เราได้มีการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน สาธารณะชนได้รับทราบ จากนี้ไปจะเข้าประชุม ครม.ตามปกติ และพร้อมที่จะรับฟังความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่จะมีการซักถามหรือโต้แย้ง หากไปถึงระดับหนึ่งนายกรัฐมนตรี เห็นว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการต่อ ท่านก็สามารถสั่งการได้ จะลงมติหรือจะดำเนินการอย่างไรก็ตามแต่ ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยได้แสดงให้เห็นว่าเราลงให้แล้ว เราหมอบให้แล้ว ในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการที่จะต้องมีความเห็นไม่ตรงกันต่อหน้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและขณะนี้ได้เคลียร์กันหมดแล้วก็เดินหน้าประชุมตามปกติเมื่อถึงเวลาโหวตแล้วไม่แก้ไขอะไรเราก็โหวตโน แต่หากมีการแก้ไขทุกอย่าง ไม่มีความกังวล ว่าจะมีปัญหาตามมาหลังจากพ้นตำแหน่ง และถูกต้องตามกระบวนการมีการโอนเรียบร้อยประชาชนได้รับประโยชน์ ค่ารถค่าโดยสารถูกลง เราจะเร่งให้รีบโอนให้ทำให้สำเร็จโดยเร็ว เรื่องมีแค่นี้

เมื่อถามว่าไม่ใช่เป็นข้อเสนอที่ต้องการให้นายกฯ เลือก ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์ และนายอนุทิน หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์ กับ อนุทิน ไม่ต้องถามว่านายกรัฐมนตรีจะเลือกใคร เพราะท่านเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นไม่ต้องถาม รู้สี่รู้แปดภาษาจีนเรียก”อู่โต่อู่โส่ย” คือ รู้ใหญ่รู้เล็กมันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับตรงนั้น คนละเรื่องกันถามออกทะเลแล้วไม่ต้องการให้เลือก ขอให้เลือกประชาชน

นายอนุทิน กล่าวว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมา มีหลายคดีที่รัฐมนตรีต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องดำเนินคดี ต้องไปร่วมฟังคำพิพากษาของศาล เช่นคดีกล้ายาง คดีctx และ คดีหวยบนดิน ซึ่งไม่มีความสุขเลย และเข็ดแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอ .-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายเผารถ-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี

ปัตตานี 26 มิ.ย. – คนร้ายเผารถ อบต.-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เขาตรึงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเพิ่มความเข้มงวดการลาดตระเวน เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่อำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี หลายจุด มีรายงานว่า รถของ อบต.แป้น ถูกลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย และในพื้นที่โดยรอบยังพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด ทั้งที่ ม.3 ต.กะรุบี ม.8 ต.ตะโละดือรามัน และ ม.4 ต.ปล่องหอยอำเภอกะพ้อ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ เข้าตรึงพื้นที่ และดำเนินการเก็บกู้ ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและสอดส่องตามจุดเสี่ยง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และอยู่ระหว่างการสืบสวนถึงมูลเหตุจูงใจ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเหตุผิดปกติ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]