ยูทาห์ 15 ก.ย.- ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยยิงสังหารนายชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาที่เป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้ความร่วมมือกับทางการในการสอบสวน
นายสเปนเซอร์ ค็อกซ์ ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์หลายแห่งเมื่อวานนี้ว่า นายไทเลอร์ โรบินสัน ผู้ต้องสงสัยวัย 22 ปี จะถูกฟ้องอย่างเป็นทางการในวันอังคาร ขณะนี้ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่รัฐยูทาห์ นายโรบินสันไม่รับสารภาพและไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวน แต่คนรอบตัวเขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หนึ่งในนั้นคือเพื่อนร่วมห้องที่เป็นผู้หญิงข้ามเพศและเป็นคู่รักของนายโรบินสัน
นายค็อกซ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราว รวมถึงปลอกกระสุนที่มีการแกะสลักข้อความไว้บนปลอกที่ยิงไปแล้ว 1 นัด และยังไม่ยิง 3 นัด เช่น “Hey fascist! CATCH!” แปลได้ว่า “เฮ้ย เจ้าฟาสต์ซิสต์! รับไว้!” และ “If you read This, you are GAY Lmao” แปลได้ว่า “ใครอ่านข้อความนี้ คนนั้นเป็นเกย์” ทั้ง 2 ข้อความนี้ซึ่งอยู่บนปลอกกระสุนที่ยังไม่ถูกยิง ผู้ว่าการรัฐยูทาห์เปิดเผยด้วยว่า นายโรบินสันเติบโตมาในครอบครัวเคร่งศาสนาในย่านที่มีความคิดอนุรักษนิยมเข้มข้นของรัฐยูทาห์ แต่มีอุดมการณ์ที่แตกต่างจากครอบครัวอย่างมาก และไม่ใช่แฟนคลับของนายเคิร์ก

เจ้าหน้าที่สอบสวนยังไม่มีข้อมูลว่า เหตุใดนายโรบินสันจึงปีนขึ้นไปบนหลังคามหาวิทยาลัยยูทาห์วัลลีย์ในช่วงที่นายเคิร์กกำลังพูดในงานกลางแจ้งท่ามกลางผู้ร่วมงาน 3,000 คนเมื่อวันที่ 10 กันยายน แล้วใช้ปืนไรเฟิลยิงเข้าที่คอของนายเคิร์กจากระยะไกล สังหารเขาด้วยกระสุนนัดเดียว
เหตุการณ์นี้โหมกระพือกระแสวิตกเรื่องการใช้ความรุนแรงทางการเมืองในสหรัฐ และความแตกแยกทางการเมืองแบบร้าวลึกระหว่างผู้มีแนวคิดฝ่ายซ้ายกับผู้มีแนวคิดฝ่ายขวา เนื่องจากนายเคิร์กมักแสดงความเห็นต่อต้านกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศและผู้อพยพ เขาช่วยเรียกคะแนนเสียงให้แก่พรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งปี 2567 และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มจุดเปลี่ยนสหรัฐอมเริกา (Turning Point USA) ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาสายอนุรักษนิยม
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวโทษอย่างไร้หลักฐานว่า ฝ่ายซ้ายตกขอบสังหารนายเคิร์ก ทำให้นายโจชัว หรือจอช ชาพิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนียจากพรรคเดโมแครตที่เคยถูกคนร้ายวางเพลิงบ้านพักขณะอยู่กับครอบครัวเมื่อเดือนเมษายนโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ความรุนแรงได้อยู่เหนือเส้นแบ่งระหว่างพรรคไปแล้ว หนทางที่จะแก้ไขเรื่องนี้และทำให้มีการถกเถียงแบบสันติอย่างแท้จริงอยู่ที่บรรดาผู้นำที่จะต้องพูดและทำโดยมีความชัดเจนทางศีลธรรม และจำเป็นต้องเริ่มที่ประธานาธิบดีเป็นคนแรก.-814.-สำนักข่าวไทย