“อนุทิน” ยึดสไตล์ทำงาน คนละพรรค แต่พวกเดียวกันสำคัญกว่า

กทม. 15 ก.ย.-“อนุทิน” เผยทูลเกล้าฯ ครม. สัปดาห์นี้ แจงสภาอุตสาหกรรมฯ ไม่เปิดด่านไทย-กัมพูชา ในตอนนี้ เหตุเราไม่ได้เริ่มก่อน และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เรากำหนด ชี้เป็นรัฐบาลมา 6 ปี เหน็บรู้ไส้ปัญหานายกฯ-รมต. คนละพวกห่วงคะแนนตกพรรคอื่น ยึดสไตล์ทำงาน คนละพรรค แต่พวกเดียวกันสำคัญกว่า เรียกเสียงเฮ ขอฟื้นเศรษฐกิจ จะบอกว่า มีกินมีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีก็ได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ร่วมกับ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายธนกร วังบุญคงชนะ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย


ทั้งนึ้ ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้แนะนำ นายสุชาติ และนายธนกร ให้กับนางศุภจี พร้อมกล่าวว่าให้ทำความรู้จักกันไว้เพราะนี่คือรัฐมนตรีของเรา จากนั้น เมื่อถึงห้องประชุม บรรดาผู้ร่วมประชุมได้ปรบมือต้อนรับนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ ประธาน ส.อ.ท. ได้มอบกระเช้าแสดงความยินดีและอวยพรวันเกิดให้กับนายอนุทินที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวให้การต้อนรับ โดยระบุว่า ในนามของสภาอุตสาหกรรมฯ ตนและทีมงานทุกท่านรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจเป็นอย่างมาก ที่ได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มาร่วมหารือกับ สอท. ในวันนี้ ซึ่งเมื่อสักครู่ก่อนเข้าห้องประชุม ตนได้แนะนำผู้บริหารส.อ.ท.ให้รู้จักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขอแนะนำบางท่านที่ยังเหลืออยู่


จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดการประชุม ว่า ในวงหารือวันนี้เป็นพี่น้องกันทั้งนั้นรู้จักกันมานาน หลังจากนี้เป็นช่วงเวลาที่ประเทศต้องขับเคลื่อน ให้ปัญหา ที่เกิดขึ้นต้องได้รับการแก้ไข และจะมีการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ แต่เราคงไม่ปล่อยเวลาให้เสียประโยชน์ ได้ประสาน กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รัฐบาลกับผู้นำทางเศรษฐกิจต้องไปคู่กัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย ให้เกิดความมั่นคงแข็งแรงในมิติอื่นๆ เช่น หากเศรษฐกิจดีคุณภาพชีวิตก็จะดี สังคมก็จะมีความสงบสุข

นายอนุทิน กล่าวว่าจริงๆวันนี้ต้องการมารับฟังข้อกังวลข้อเสนอแนะ จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเราได้ประชุม ร่างการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เนื่องจากเวลามีจำกัด ซึ่งแม้ยังไม่ได้ทำงานแต่หลังไมค์แล้วทำทุกอย่าง เพราะสไตล์ของพวกเราคือต้องทำงานเร็ว นโยบายของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นนั้นมุ่งเน้น แก้ไขเศรษฐกิจระยะสั้น วางรากฐานเพื่อการต่อยอด ให้มีความมั่นคงต่อไปในระยะยาว ปัญหาเฉพาะหน้า ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะปัญหาของผู้ประกอบการ แต่ไทยกัมพูชาก็ต้องมีการค้าขายกันอยู่ แต่ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาถึงปัจจุบันนี้ เงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆ การที่เราจะต้องรักษาอธิปไตย เกียรติภูมิของประเทศ การเปิดด่านจะไม่เกิดขึ้นในระยะสั้นนี้ ซึ่งก่อนจะเกิดสิ่งเหล่านั้นก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่เราเป็นผู้กำหนด เพราะเราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ต้องพูดให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความกังวล อย่างไรก็ตามเราต้องใช้ทุกวิธี เช่นการทหาร การทูต และหารือกับฝ่ายกัมพูชา ใช้องคาพยพทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหา ของ 2 ประเทศ โดยเร็วที่สุด

นายอนุทินกล่าวว่าในเรื่องของผู้ประกอบการ ที่อยู่ในโครงการ Thailand Plus One ในส่วนของ กลุ่มประเทศ CLMV มีแนวคิดที่จะต้อง matchingกับเรา โดยเฉพาะ Local Content ที่เราเคยทำกับประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องลงทุนผลิตในประเทศไทยแทน ดังนั้นคำว่า Local Content เป็นคำที่พวกเราต้องให้การสนับสนุน และให้ความสำคัญมาก ด้วยการเจรจากับประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของเรา ว่าเขามีข้อกำหนดมา ถือว่าประเทศไทยเรา ไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศอื่น แต่ยังมีเงื่อนไข โดยเฉพาะพวกแปลงร่าง Local Content ที่กำหนดเงื่อนไขมา ตนมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ทำให้เราสามารถผลิตสินค้าส่งไปสหรัฐอเมริกาได้ และหากมีปัญหาก็ควรต้องส่งเสริมการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่แปลก เพราะเมื่อ 20-30 ปีก่อน ที่ไทยเราเริ่มอุตสาหกรรม OEM แต่ครั้งนี้อย่าให้เป็นการรับจ้างทำของ หรือจ้างประกอบ เราต้องเริ่มตั้งแต่ เปิดช่องทางเศรษฐกิจ ถือเป็นโอกาส ให้ไทยขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาได้วางรากฐานเอาไว้ ของการขยายตัวอุตสาหกรรมของประเทศไทย ซึ่งตนมองว่า เรายังไม่ได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดการชะลอตัว ซึ่งตอนนี้เราต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น เพราะคู่แข่งข้างนอกเกิดมากขึ้น เช่น เวียดนาม และ กัมพูชา ก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย


นายอนุทิน กล่าวอีกว่า บางครั้งต้องยอมรับ ว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้รัฐบาลชุดนี้เข้ามา ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะทำให้เห็นว่า จะทำให้เป็นตัวอย่าง ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งเดียวของรัฐบาล ที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปได้

“ที่ผ่านมาผมอยู่มา 6 ปี เห็นปัญหาเยอะแยะ ที่สำคัญ การหวาดระแวงซึ่งกันและกัน เอาตรงนี้เสนอขึ้นมา เช่น พรรคนี้คุมกระทรวงอุตสาหกรรม แต่นายกฯเป็นคนละพรรคกัน ก็ไม่สนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะกลัวคะแนนตก ไปที่พรรคอื่น ซึ่งขอเรียนว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลของตน เพราะถือคติ คนละพรรคแต่พวกเดียวกันสำคัญกว่า พรรคเดียวกันคนละพวก” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนอยู่ภาคเอกชนมาก่อน มีความเชื่อมั่น ถ้าเศรษฐกิจดี ประเด็นอื่นเป็นเรื่องเล็ก จะบอกว่าคนมีกินมีใช้ หรือมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีด้วยก็ได้ ซึ่งจังหวะนี้ทำให้ผู้ร่วมประชุมหัวเราะขึ้นมา ตนและทีมงานของตนจะเร่งให้เกิดการวางรากฐาน ให้ได้มากที่สุดด้วยสไตล์การทำงานยึดภาพรวมเป็นหลัก ไม่ยึดภาพตัวเองเป็นหลัก ขอให้มั่นใจอะไรที่ดีต่อส่วนรวมจะใช้อำนาจหน้าที่ ของตนในฐานะนายกรัฐมนตรี ช่วยผลักดันความคาดหวังของพวกท่านให้เกิดความสำเร็จ.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]