ทำเนียบ 28 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ย้อนถาม ใครดีล 2,000 ล้านบาท ล้มรัฐบาล ลั่น หากรู้เคลียร์เอง ไม่รู้ รัฐมนตรี – สส. เพื่อไทย เตรียมขนทัพมาให้กำลังใจนายกฯ ที่ทำเนียบ 29 ส.ค.นี้ ปัด รู้ผลล่วงหน้า ชี้ อยู่ที่ดุลพินิจของศาล
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวดีล 2,000 ล้านบาท เพื่อล้มรัฐบาล โดยนายภูมิธรรม ถามกลับว่า ใครดีลกับใคร สื่อมวลชน ได้ตอบกลับว่า มีข่าวลือมา ทำให้นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ใคร บอกมาเลย จะได้ไปเจอ และยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้
นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า เมื่อสื่อนำเรื่องข่าวลือมาถาม ตนเองจะไปตอบได้อย่างไร เพราะเป็นข่าวลือ พร้อมถามกลับว่า ใครเป็นคนพูดเรื่องนี้ ถ้าบอกมาตนเองจะได้ไปเคลียร์
เมื่อถามว่า นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องกระแสข่าวดีล 2,000 ล้านบาท เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้ไปถามนายสมคิดเอง เพราะยังไม่ได้รายงานมาให้ทราบ
เมื่อถามว่า หากหลังวันที่ 29 สิงหาคม นี้หากต้องโหวตนายกรัฐมนตรีใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลได้พูดคุยกันหรือไม่ว่าจะไม่มีพลิกขั้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปคิดสิ่งที่ยังไม่เกิด เรื่องนั้นจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีมีความผิด ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าผิดหรือไม่ผิด ขอให้เป็นไปทีละขั้นตอน
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) จะมีรัฐมนตรี และ สส. พรรคเพื่อไทยนั่งรถบัสมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นการแสดงความมั่นใจอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า คงคาดหวังจะมาแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองไม่ทราบ เพราะไม่ค่อยได้เข้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีภารกิจมาก แต่หากมีเวลาจะพยายามเข้าพรรค ซึ่งไม่ทราบ ว่า มีการพูดคุยอะไรบ้าง และในวันอังคาร ที่ผ่านมาไม่ได้เข้าร่วมประชุม สส. เพื่อไทย
ขณะที่สังคมมอง ว่า เป็นการรู้ล่วงหน้าหรือไม่ นายภูมิธรรม ร้องโอ๊ย ก่อนกล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้นเลย รู้แล้วผิดหวังก็มี รู้แล้วประสบความสำเร็จก็มี ซึ่งเป็นการคาดเดา และความเชื่อ คิดว่า สส. ของพรรคเพื่อไทย เชื่อในความตั้งใจจริง และความบริสุทธิ์ใจของนายกรัฐมนตรี และคิดว่าข้อกล่าวหา นายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนแบบนั้น ในพฤติกรรมที่ทำมา เท่าที่ดูในสำนวน คำพูด รวมถึงผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศหลายส่วนได้ดู ก็เป็นเรื่องธรรมดาทางการทูตที่จะเจรจากัน ซึ่งมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของนายกรัฐมนตรี และคิดว่า จะประสบความสำเร็จ จึงอยากมาแสดงความยินดี ทั้งนี้ ไม่มีใครเป็นหลักประกันได้ว่า ศาลจะใช้ดุลพินิจอย่างไร .-316 -สำนักข่าวไทย