กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – รมว.พลังงานเผยเชฟรอนระงับฟ้องต่ออนุญาโตตุลาการเป็นสัญญาณที่ดี นำไปสู่การเจรจาหาทางออกร่วมกัน กรณีค่ารื้อถอนแท่นปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณ ย้ำจะไม่ให้กระทบความมั่นคงพลังงาน และยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัทเชฟรอนของสหรัฐระงับการฟ้องร้องอนุญาโตตุลาการกรณีข้อพิพาทเรื่องค่าใช้จ่ายรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณในอ่าวไทย ว่า นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงานและผู้รับสัมปทาน คือ บริษัทเชฟรอน ซึ่งสัญญาสัมปทานจะหมดอายุปี 2565 ดังนั้น การเริ่มต้นเจรจาหาทางออกร่วมกัน ทั้งด้านกฎหมายและแผนดำเนินการรื้อถอนอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อส่งมอบพื้นที่ จึงนับเป็นแนวทางที่ถูกต้อง
“ปัญหาข้อพิพาทการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมเป็นประเด็นสำคัญตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง รมว.พลังงาน พยายามหาทางออกอย่างต่อเนื่อง แม้เป็นเรื่องที่ยาก แต่รับฟังแนวทางจากทุกฝ่าย ทั้งข้อดีข้อเสีย และเงื่อนไขทางกฎหมายอย่างรอบด้าน ดังนั้น การที่บริษัทเชฟรอนสหรัฐประกาศว่าจะชะลอการฟ้องร้องอนุญาโตตุลาการออกไปก่อน เพื่อนำไปสู่การเจรจา จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดีและเชื่อว่าจะได้ข้อตกลงดีที่สุด โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก” นายสนธิรัตน์ กล่าว
สำหรับระยะเวลาการเจรจากับทางบริษัทเชฟรอนนั้น ขณะนี้ได้มอบให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกับอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเร่งหาทางออกโดยเร็ว เพื่อให้ขั้นตอนการส่งมอบพื้นที่และแท่นปิโตรเลียมเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ไม่เกิดภาวะสุญญากาศ จนส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติหรือความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยทั้งระบบ.-สำนักข่าวไทย