fbpx

“สนธิรัตน์ ” อำลา ไม่ฝากงาน รมว.พลังงาน คนใหม่

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – “สนธิรัตน์” อำลาข้าราชการกระทรวงพลังงาน ระบุ ไม่เสียดาย ไม่ฝากงาน รมว.พลังงานคนใหม่ คุยทำหลายโครงการ นำพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายประชาชน สร้างเศรษฐกิจฐานราก




เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำกระทรวงพลังงาน หลังจากประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ โดยจุดนี้ เมื่อ วันที่ 18 ก.ค.62  ก็เป็นวันแรกที่นายสนธิรัตน์ ได้เข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มทำงาน หลังจากนั้น นายสนธิรัตน์ ได้พบปะอำลา ข้าราชการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจในสังกัด แถลงผลงานกับสื่อมวลชน และยังแจกหนังสือ เอ็นเนอร์ยี่ฟอร์ออล พร้อมลายเซนต์ ให้กับผู้เข้าร่วมงาน โดย ทีมงานระบุว่า หนังสือเล่มนี้ทางสำนักพิมพ์ ได้เตรียมเขียนมา 7-8 เดือน ไม่ได้เตรียมเพื่อการอำลาตำแหน่ง รมว.พลังงานแต่อย่างใด  

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายและสื่อที่ทำงานร่วมกันมา 1 ปี  นับจากนี้ คงจะพักผ่อนและยังไม่คิดว่าจะเล่นการเมืองใดๆ คงจะไปทำงานด้านที่สร้างประโยชน์ต่อประเทศต่อเนื่อง ซึ่งใครจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน คนใหม่ ก็แล้วแต่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณา และไม่ขอฝากจะสานงานต่อที่ทำไว้หรือไม่ หากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีก็แล้วแต่ รมว.พลังงานคนใหม่ 


อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า งานที่กระทรวงพลังงาน ไม่ได้สร้างผลประโยชน์ส่วนตัว เหมือนกับสังคมวิพากษ์วิจารณ์ เท่าที่ตนเข้ามาก็ไม่ได้มีอะไร และสิ่งสำคัญคือ สังคมสาธารณะจับตาดูโดยตลอด โดยงานที่ทำมาในรอบหนึ่งปี ได้ผลักดันงานตามแผน  พลังงานชุมชนเพื่อทุกคนหรือ Energy For All  ทั้งโรงไฟฟ้าชุมชน การลดค่าไฟฟ้า ลดภาระภาคประชาชนช่วง โควิด-19  การส่งเสริมพืชพลังงาน โดยเฉพาะการนำบล็อกเชนมาซื้อขายปาล์ม เป้าหมาย 30 ล้านลิตร  การหารือกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จนระงับชั่วคราวการฟ้องร้องอนุญาโตตุลาการเรื่องข้อขัดแย้งการรื้อถอนแท่นสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุ และเตรียมเปิดให้เอกชนเข้าประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่ รอบที่ 23 ซึ่งตามแผนงานเดิม จะมีการลงนามประกาศเชิญชวนให้เอกชนเสนอแข่งขันในสัปดาห์หน้า  ในขณะที่ได้เจรจากับกัมพูชา เพื่อพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมทับซ้อนร่วมกัน เพื่อให้ไทยมีความมั่นคงด้านพลังงานต่อเนื่อง รวมทั้งวางรากฐานความโปร่งใสของเงินโครงการขอใช้งบกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน สามารถตรวจสอบสาธารณะได้ และหากใครเข้ามาทำไม่ดี ก็จะขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์/ตรวจสอบ เพราะกองทุนไม่ใช่เค้กที่ใครจะมาแบ่งปันกัน ซึ่งงานเหล่านี้ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากและลดต้นทุนพลังงาน โดย รมว.พลังงานคนใหม่หากเห็นว่าเป็นประโยชน์สานต่อก็แล้วแต่จะพิจารณา   

“ไม่ได้เสียดาย และไม่มีสัญญาใจใดๆ กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด แต่ก็ยอมรับว่า ผูกพัน ด้วยการทำงานร่วมกันมานานมาก และการจะกลับมาทำงานทางการเมืองอีกหรือไม่ก็นับเป็นเรื่องยากเพราะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งคงจะไปทำงานด้านประชาสังคม โครงการประชารัฐต่อจากที่ทำมาก่อนหน้านี้ ทำเรื่องเศรษฐกิจฐานราก และประชารัฐก็เป็นที่มาของชื่อพรรคพลังประชารัฐ” นายสนธิรัตน์กล่าว 

“เอนเนอร์ยี่ ฟอร์ออล เป้าหมายหลัก คือ ลดภาระประชาชน นำพลังงาน เป็นฐานราก สร้างความสามารถการแข่งขันของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพลังงานก็ได้เปิดตัวเองสู่ประชาชนมาก แต่หลายโครงการผลกระทบโควิด-19 ก็ทำให้โครงการล่าช้าไป ซึ่งกรณีโรงไฟฟ้าชุมชนที่ยังไม่เสร็จ หากเดินหน้าต่อก็ขอฝาก ปลัดก.พลังงานช่วยดูแลไม่ให้เกิดการซื้อขายสัญญาพีพีเอ ที่จะเป็นการกินเปล่าของเอกชน และเรื่องโครงสร้างพลังงานที่เป็นธรรม ขอยืนยันไม่ได้เอาใจเอ็นจีโอ แต่ก็อยากเห็นความร่วมมือ ร่วมคิดระหว่างกัน” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ ระบุว่า สำหรับการลดภาระค่าครองชีพประชาชนในช่วงโควิด-19 มีมูลค่า 40,500 ล้านบาท โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนหากได้สานต่อก็จะเปิดโอกาสให้ชุมชนเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า ด้วยเงินลงทุน ไม่ต่ำกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท การสร้างความเป็นธรรมด้านราคาพลังงานด้วยการปรับราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นลง 50 สตางค์/ลิตร มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท การยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ด้วยนโยบายดีเซลบี 10  ทำให้เกิดการดูดซับปาล์มน้ำมันมาเป็นพลังงานถึง 2 ใน 3 ของการผลิต ในขณะที่การแก้ไขปัญหาโซลาร์ภาคประชาชน ยังไม่เสร็จสิ้น  ซึ่งเดิมนั้นอยู่ระหว่างการตั้งคณะทำงานศึกษา เช่น ข้อปัญหาที่หากชาวบ้านติดตั้งโซชาร์รูฟท็อป ต้องมีวุฒิวิศวกรลงนามรองรับ เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.