กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – “สนธิรัตน์” แจงลาออกจากตำแหน่ง รมว.พลังงาน เพื่อให้เมืองเดินหน้าต่อไปได้ และไม่ต้องการให้เกิดภาวการณ์ชะงักงันของรัฐบาล
“สำหรับเหตุผลของการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานครั้งนี้ ก็เพราะผมอยากเห็นการเมืองเดินหน้าต่อไปได้ และไม่ต้องการให้เกิดภาวการณ์ชะงักงันของรัฐบาล อันจะเป็นการซ้ำเติมต่อความทุกข์ยากและปัญหานานาชนิดที่พี่น้องประชาชนประสบอยู่ในขณะนี้” นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ชี้แจงผ่าน FB สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ https://www.facebook.com/748153728650621/posts/2005958872870094/ โดยมีผู้คนในโลกออนไลน์แสดงความเห็นเป็นกำลังใจจำนวนมาก
นายสนธิรัตน์ ระบุว่า แม้จะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้วก็ตาม แต่ยังมุ่งมั่นที่จะใช้เวลาและโอกาสในการทำงานและปฏิบัติกิจกรรมทางสังคมที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ตามกำลัง ประสบการณ์ และความสามารถ โดยถือว่าประเทศชาติจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้นั้น จำเป็นต้องมี “มดงาน” ที่ทำงานหนัก เสียสละความสุขส่วนตน เพื่อความสุขโดยรวม อันจะเป็นรากฐานให้กับความอยู่ดีมีสุขของคนอื่น ๆ ต่อไป
“ผมขอกราบขอบพระคุณนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้โอกาสในการเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ผมขอขอบคุณ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ กระทรวงพลังงานทุกคน และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ได้ร่วมกันทำงานและร่วมกันผลักดันนโยบาย “พลังงานเพื่อทุกคน” หรือ Energy for All ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ที่สำคัญที่สุด ผมขอขอบคุณ พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งมวลและสื่อมวลชน ที่คอยติดตามและแนะนำการทำงานของกระผม ทั้งยังส่งกำลังใจมาถึงผมอย่างต่อเนื่องตลอดมา
ขอบคุณครับ” นายสนธิรัตน์ ระบุ
ทั้งนี้ ในวันนี้ (16 ก.ค.) ทีมงานนายสนธิรัตน์ ได้เดินทางมาทยอยเก็บสิ่งของที่กระทรวงพลังงาน หลังประกาศลาออกจากตำแหน่งในช่วงเช้า และในช่วงค่ำมีงานเลี้ยงขอบคุณทีมงาน ส่วนวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) จะอำลาข้าราชการและแถลงผลงาน โดยเฉพาะช่วงลดผลกระทบด้านพลังงาน โควิด-19 เพิ่มรายได้-ลดรายจ่ายภาคประชาชนหลายหมื่นล้านบาท และเตรียมแจกลายเซ็นต์พร้อมหนังสือ Energy for All ที่รวบรวมผลงานแนวคิดการทำงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ที่รับตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2562 และเข้ากระทรวงพลังงานวันแรก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 โดยนโยบายหลักที่น่าจับตามอง คือ โรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ ที่นายสนธิรัตน์ พยายามผลักดัน แต่ ครม.ยังไม่เห็นชอบ จะเป็นโครงการที่ถูกยกเลิกหรือไม่. -สำนักข่าวไทย