กรุงเทพฯ 14 มี.ค.- นายกฯ ขอนักลงทุนเชื่อมั่นศักยภาพของไทย ที่มี ยุทธศาสตร์ชาติเป็นกลไก สร้างการพัฒนาในระยะยาว พร้อมผลักดันการพัฒนาที่เข้มแข็งของอาเซียนไปพร้อมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุม CLSA อาเซียน ประจำปี 2562 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อให้ความมั่นใจกับนักลงทุนต่างประเทศ ที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์โลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือ และสร้างพันธมิตรจากหลากหลายประเทศ รวมทั้งแสวงหาทำเลสำหรับการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการผลิตให้ได้เร็วขึ้น ซึ่งประเทศไทยจะเป็นคำตอบ สำหรับการทำธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติได้ เพราะตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคอาเซียนที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ และมีศักยภาพที่จะก้าวไปสู่กลุ่มเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของโลกภายในปี 2030
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภาคเอกชนเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะร่วมมือกับรัฐบาลและภาคส่วนอื่น ๆ สร้างการพัฒนาและลดความเหลื่อมล้ำ โดยไทยได้วางแนวทางพัฒนาคือ ยุทธศาสตร์ชาติ แนวทางการปฏิรูปประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมสร้างงานวิจัยและนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจสำหรับอนาคต เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงการค้าและการลงทุนที่สำคัญของภูมิภาค ทั้งนี้ต้องขอบคุณนักลงทุนจากต่างประเทศ ที่ขณะนี้เข้ามาลงทุนในพื้นที่จำนวนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นที่จะมาลงทุนในประเทศไทยและเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล ที่จะทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด เหมือนที่เคยทำมาตลอด และประเทศไทยพร้อมที่จะดูแลนักลงทุนจากทั่วโลก ซึ่งการจะทำสิ่งเหล่านี้ได้ต้องเริ่มจากการเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักลงทุน ซึ่งรัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนกลไก และกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้อำนวยความสะดวกต่อการค้าการลงทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่านักธุรกิจที่มาร่วมงานในวันนี้ จะร่วมเติบโตและเข้ามาเป็นหุ้นส่วนกับอาเซียนในการขยายธุรกิจต่อไป สำหรับประเทศไทยนั้น รัฐบาลได้เร่งเดินหน้าปฏิรูปประเทศในทุกมิติ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่จะนำประโยชน์มาสู่ประเทศไทยเท่านั้น แต่จะช่วยกระจายความมั่งคั่งไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ให้ก้าวหน้าเติบโตไปด้วยกันอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม.-สำนักข่าวไทย