“บิ๊กตู่”อารมณ์ดี ปิดห้องถก 3 ป.ไม่หวั่นกระแสล็อบบี้พรรคเล็ก

ทำเนียบรัฐบาล 3 พ.ค.- ครม.คึกคัก​ “บิ๊กตู่” อารมณ์ดีได้กลับมาใช้ตึกบัญฯ​ ใกล้ชิดกัน​ ชวน​ รมต.ร่วมโต๊ะกินข้าวเที่ยง​  3ป.​ปิดห้องถก2รอบ​ นายกฯลั่นไม่หวั่นไหวกระแสล็อบบี้พรรคเล็ก


รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล​ แจ้งว่า​ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.)​ เต็มคณะ​ ซึ่งครั้งนี้ได้กลับมาใช้ห้อง​ 501 ตึกบัญชาการ​ 1​ เป็นสถานที่ประชุม​ หลังจากไม่ได้ใช้มาตั้งแต่ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19​ ทั้งนี้​ก่อนการประชุมครม.​​ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม​ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี​ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ​ และพล.อ.อนุพงษ์​ เผ่าจินดา​ รมว.มหาดไทย​ ได้เข้าไปหารือกันในห้องพักรับรอง ซึ่งติดกับห้องประชุมครม.ครู่หนึ่ง​ และมีการเข้าไปในห้องรับรองอีกครั้งในช่วงพักการประชุม​ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการประชุมครม.เป็นไปอย่างราบรื่น​ พล.อ.ประยุทธ์ค่อนข้างอารมณ์ดี​ มีการเดินทักทายรัฐมนตรีทั่วห้อง​ มีเกาะกลุ่มพูดคุยกับรัฐมนตรีอย่างเป็นกันเอง​ พร้อมกับบอกว่า​ รู้สึกดีที่ได้กลับมาประชุมที่นี่อีกครั้ง​ ทั้งที่เมื่อก่อนเราได้ประชุมกันที่นี่​ ได้ใกล้ชิดกัน​ และก่อนจะรับประทานอาหารกลางวัน​ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้เอ่ยปากชักชวนรัฐมนตรีให้ร่วมรับประทานอาหารกันที่ห้องอาหาร​ ซึ่งบรรยากาศในห้องอาหาร พล.อ.ประยุทธ์ได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับรัฐมนตรี​ อาทิ​ นายสุริยะ​ จึงรุ่งเรือง​ รมว.อุตสาหกรรม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ส่วน​ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยร่วมรับประทานอาหารกับรัฐมนตรีอีกโต๊ะนึง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้อยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วย

ในที่ประชุมครม.​กระทรวงมหาดไทยได้รายงานเรื่องการขจัดความยากจน​ โดยพล.อ.อนุพงษ์​ ได้รายงานว่า​ กระทรวงมหาดไทยได้ลงไปทำแผนความต้องการของประชาชนให้แล้ว อยากให้ทุกหน่วยงานได้ปฏิบัติตามแผน อาทิ​ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย กระทรวงสาธารณสุขที่ดูเรื่องสุขภาพ ขอให้ไปดำเนินการต่อเพื่อให้โครงการนี้เสร็จ รวดเร็ว และมีผลงานเป็นรูปธรรมออกมา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำว่า ขอให้ทำให้ต่อเนื่องเพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้่ ต้องทำให้สำเร็จ


นอกจากนี้ ในช่วงท้ายการประชุมครม.​ พล.อ.ประยุทธ์ได้อ่านคำถามที่สื่อมวลชนที่ส่งมาถาม​ให้ที่ประชุมฟัง​ โดยพล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า​ เดี๋ยวให้โฆษกประจำสำนักนายกฯไปพูด​ ผมไม่พูดหรอก​ ทั้งนี้​ เมื่ออ่านมาถึงคำถามเรื่องซื้อตัว​ ส.ส.5-30​ ล้านบาท​ และมี​กระแสข่าวล็อบบี้พรรคเล็กนั้น​ พล.อ.ประยุทธ์พูดว่า​”ผมไม่หวั่นไหว​ จะทำให้ดีที่สุด​ ส่วนเรื่องนายกฯคนนอก​ นายวิษณุ​ เครืองาม​ รองนายกฯบอกไปแล้ว​ ผมไม่ได้ตอบอะไร”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล