กทม. 28 ก.ค. – วันนี้เป็นวันที่กรมชลประทานคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจานจะเพิ่มขึ้นสูงสุดจนอยู่ในระดับเกินเกณฑ์ควบคุม จึงเตรียมระบายออกทะเล เพื่อป้องกันน้ำล้นและรักษาความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ผลปรากฏว่าปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จะเพิ่มสูงสุดตั้งแต่วันนี้ (28 ก.ค.) จนถึงวันที่ 3 สิงหาคม ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 624 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 88% และคาดการณ์จะมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ช่วง 7 วันข้างหน้ารวม 77 ล้านลูกบาศก์เมตร
ปัจจุบันระบายน้ำออกจากอ่างฯ วันละ 8.6 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดการณ์ว่าวันที่ 3 สิงหาคม จะมีปริมาณน้ำมากถึง 641 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90.26% เกินเกณฑ์ควบคุม (Rule Curve) ซึ่งกำหนดไว้ไม่เกิน 70-80% เพื่อให้มีพื้นที่รองรับ หากมีฝนตกรวมทั้งกรณีเกิดพายุช่วงปลายฤดูฝน
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จะยังคงการระบายน้ำจากเขื่อนในอัตราวันละ 8.6 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อไปจนถึงปลายเดือนกันยายน แต่ได้เตรียมแนวทางปฏิบัติหากมีฝนตกในพื้นที่ตอนล่าง จะพิจารณาตัดน้ำเข้าระบบชลประทาน เพื่อควบคุมปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเพชรให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร ทั้งนี้ กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อป้องกันอุทกภัยและรักษาความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้สำนักชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ เนื่องจากนับจากนี้ไปจนถึงเดือนตุลาคม จะเป็นช่วงที่ฝนตกชุกที่สุดของปี และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าอาจมีพายุเข้ามาอย่างน้อย 1 ลูก จึงต้องเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำไว้ให้พร้อม หากระดับน้ำสูงกว่าเกณฑ์เก็บกักต้องพร่องน้ำออกในระดับที่ไม่กระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อน แต่หากจะมีผลกระทบให้รีบรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนในการเฝ้าระวังและเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ท้ายเขื่อนให้เร็วที่สุด พร้อมกันนี้ได้เพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างสำนักชลประทานต่างๆ กับศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะให้มากขึ้นและเชื่อมโยงกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะหากเกิดมีฝนตกหนักจะได้กำหนดบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ไม่ให้ส่งผลน้ำล้นตลิ่ง ล้นสันเขื่อน หรือเขื่อนชำรุด. – สำนักข่าวไทย