ทำเนียบรัฐบาล 4 ต.ค. – นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเพิ่มการแบ่งกลุ่มส่งเสริมเอสเอ็มอีเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ภาคการผลิต การค้า การบริการ และการเกษตร เพื่อลดข้อจำกัดที่ไม่เอื้อต่อการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และให้กระบวนการช่วยเหลือส่งเสริมและสนับสนุนครอบคลุมถึงวิสาหกิจภาคการเกษตร
นอกจากนี้ ปรับลดคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จากไม่เกิน 12 คน เหลือไม่เกิน 10 คน ลดกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่แต่งตั้งจากผู้แทนองค์การเอกชนจากเดิมอย่างน้อย 6 คน เป็นอย่างน้อยกึ่งหนึ่ง ลดกรรมการผู้แทนภาคเอกชนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภูมิภาคจากเดิมอย่างน้อย 3 คน เป็นอย่างน้อย 2 คน และให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดูแล ปัจจุบันไทยมีเอสเอ็มอี 2.8 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 4.2 ของจีดีพี และเป็นแหล่งจ้างงานหลักของคนไทย มีวิสาหกิจชุมชน 80,000 กิจการ และครัวเรือนภาคการเกษตรถึง 6 ล้านครัวเรือน คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะขยายคำนิยามของเอสเอ็มอี ที่ปัจจุบันจะแยกประเภทเอสเอ็มอีตามจำนวนแรงงาน และสินทรัพย์ถาวร โดยปัจจุบันเอสเอ็มอีขนาดย่อมจะมีสินทรัพย์ไม่เกิน 50 ล้านบาท และเอสเอ็มอีขนาดกลางจะมีสินทรัพย์ 50-200 ล้านบาท ด้านของแรงงานนั้น เอสเอ็มอีขนาดย่อมจะมีแรงงานไม่เกิน 50 คน มากกว่า 50 คนจะเป็นเอสเอ็มอีขนาดกลาง ซึ่งในอนาคตจะนำในส่วนของรายได้และยอดขายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดคำนิยามของเอสเอ็มอีด้วย เพื่อให้มีความชัดเจนในการส่งเสริม ปรับปรุงองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย