มหาดไทย 9 ต.ค.- ปลัด มท. เผย นายกฯ สั่งหาพื้นที่ผันน้ำ ป้องกันท่วมเมือง-เขตเศรษฐกิจ ตอนล่าง ยืนยัน รัฐบาลพร้อมชดเชยค่าเสียหาย ไม่ต่ำ 5,000 บาท / ไร่
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ (VTC) ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ และกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม แนวทางการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย บ่ายวันนี้ (9 ต.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย
นายกฤษฎา เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย เป็นกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ วันนี้ จึงมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ถึงแนวทางการแก้ไขและรับมือน้ำท่วม โดยจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปทำความเข้าใจกับประชาชน หลังมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนชัยนาท
“การปล่อยน้ำจากเขื่อน อาจสร้างผลกระทบต่อประชาชน ที่อาศัยอยู่แนวคันกั้นน้ำ บริเวณ จ.อ่างทอง จ.สิงห์บุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.นนทบุรี แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดเหล่านี้ มีแผนรองรับน้ำที่ถูกปล่อยลงมาแล้ว” นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า การจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชนในอดีต จะใช้ในกรณีที่เกิดฝนตกหนัก หรือ น้ำเอ่อล้นตลิ่ง จนเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชน จนได้รับความเสียหาย แต่นโยบายใหม่ของนายกรัฐมนตรี คือ ให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะกรมชลประทาน หาพื้นที่เก็บกักน้ำในจังหวัดต่างๆ แทนการปล่อยน้ำลงตอนล่างทั้งหมด
“หากจำเป็นต้องผันน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร ก็ให้จังหวัด อำเภอ กรมชลประทาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปคำนวนค่าเสียหายที่จะเกิดขึ้น แยกต่างหากจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วไป ซึ่งขณะนี้มีการเตรียมการพื้นที่รองรับน้ำใน 3 ตำบลของ อ.เสนา และ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานขอเวลาคืนนี้ และพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) เพื่อประเมินสถานการณ์ และวางแผนผันน้ำต่อไป” นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า เหตุที่ต้องกักน้ำตามจังหวัดต่างๆ เพราะเกรงว่าหากปล่อยน้ำลงมาท่วมพื้นที่ตอนล่าง เช่น ดอนเมือง มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจะมีจำนวนมาก การปล่อยไปยังที่นา แม้จะมีค่าเสียหาย แต่ก็ยังน้อยกว่าปล่อยไปยังเขตชุมชนเมือง ซึ่งรัฐบาลจะเยียวยาให้มากเท่ากับจำนวนที่จะได้จากผลผลิต
“การคำนวนค่าเสียหาย จะให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร่วมกันตามความเป็นจริง คาดว่าจะชดเชยไร่ละอย่างต่ำ 5,000 บาท ผมจะทำความเข้าใจกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ไปชี้แจงกับประชาชนให้เกิดความเข้าใจ และไม่เกิดความขัดแย้งกันระหว่างคนที่อยู่ในเขตแนวกั้นน้ำ กับนอกเขตกั้นน้ำ” นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา ยืนยันด้วยว่า การระบายน้ำของกรมชลประทานที่ผ่านมา ยังไม่มีอะไรผิดพลาด ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่ 2-3 วันนี้ ฝนตกใต้เขื่อน ทำให้ประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ซึ่งท่วมอยู่แล้ว ได้รับผลกระทบมากขึ้น และสาเหตุที่ผันน้ำเข้าทุ่งไม่ได้ตั้งแต่ตอนแรก เป็นเพราะยังไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร กว่า 4 แสนไร่ ไม่ใช่เป็นเพราะเป็นที่นาของนายทุนใหญ่
