
เพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมเฝ้าระวังลุ่มท่าจีน
กรุงเทพฯ 17 ก.ย.-กรมชลประทาน เพิ่มอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,100 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 11.00 น. วันนี้ เพื่อควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์บริหารจัดการได้ พร้อมเดินหน้าติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำและเร่งระบายน้ำลงทะเลผ่านแม่น้ำท่าจีนอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่ง ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะกรมชลประทาน รายงานว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาโดยปรับเป็นขั้นบันไดเพื่อป้องกันผลกระทบต่อลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง กรมชลประทานใช้เขื่อนเจ้าพระยาหน่วงน้ำเหนือและผันเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งอย่างเต็มศักยภาพของคลอง แต่เพื่อรักษาระดับน้ำหน้าเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสมสำหรับการบริหารจัดการจึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายท้ายเขื่อนจาก 2,000 ลบ.ม./วินาทีวานนี้ เป็น 2,100 ลบ.ม./วินาทีในเวลา 11.00 น. วันนี้ ทั้งนี้การระบายน้ำเหนือเขื่อนออกทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ของแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ระดับน้ำใน แม่น้ำท่าจีนซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตก เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงในบางช่วงเวลา ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายจุด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร สำหรับในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม กรมชลประทานได้ติดตั้ง เครื่องผลักดันน้ำ 32 เครื่อง แล้วเสร็จใน 6 จุดสำคัญได้แก่ 1.ประตูระบายน้ำคลองบางพระ2.สะพานวัดสำโรง3.สะพานรวมเมฆ4.สะพานสาย 85.สะพานทรงคะนอง6.สะพานโพธิ์แก้ว โดยเป็นการเร่งระบายน้ำให้ไหลออกสู่อ่าวไทยได้เร็วขึ้นและป้องกันน้ำล้นตลิ่ง สำหรับแม่น้ำท่าจีน ถือเป็นเส้นทางระบายน้ำหลักของแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก โดยระบายน้ำผ่านระบบชลประทานที่เชื่อมโยงกันทั้งลุ่มน้ำไปยังอ่าวไทย อย่างไรก็ตาม ลำน้ำสายนี้ยังมีข้อจำกัดหลายด้านเช่น […]