ปลัด มท.ตรวจจุดตรวจฉะเชิงเทรา ย้ำบังคับใช้กฎหมายเข้ม

ฉะเชิงเทรา 14 เม.ย.- ปลัดกระทรวงมหาดไทยตรวจเยี่ยมจุดตรวจและจุดบริการประชาชนพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เน้นย้ำบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565


เวลา 11.00 น. ที่จุดตรวจหลักศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา หน้าไทยวัสดุ สาขาฉะเชิงเทรา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจ โดยมี นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายวิจารณ์ เหล่าธรรมยิ่งยง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา นายอดิเรก แตงทอง ขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา นางวราภรณ์ ศิริวงศ์ นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา นางสาวจิรดา พูลสวัสดิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา พันตำรวจเอก พิทูรย์ พัฒนชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา นายมหัตถ์ มงคล จ่าจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าที่ร้อยตรีหญิง กนกวรรณ บุญประกอบ ปลัดอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา นายหมวดตรีเอก อิทธิยาภรณ์ ปลัดอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา นายนพดล เต่ารั้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโสธร นายสำเริง พลาชีวะ กำนันตำบลโสธร นายสุเทพ สร้อยสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลโสธร พร้อมด้วย สารวัตรกำนัน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนจิตอาสา รับการตรวจเยี่ยม

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบแนวทางการปฏิบัติงานและลงนามสมุดตรวจเยี่ยม และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจ


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ขอขอบคุณนายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ตลอดจนฝ่ายปกครอง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ได้เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินทางสัญจรเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางถนนสิริโสธร ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมจากทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) และถนนสุวินทวงศ์ รวมถึงเส้นทางจากอำเภอต่าง ๆ เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองฉะเชิงเทรา ทั้งยังเป็นเส้นทางถนนสายบุญที่พี่น้องประชาชนนิยมใช้สัญจรเพื่อไปกราบสักการะหลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวฉะเชิงเทราและพุทธศาสนิกชนชาวไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล ทำให้มีปริมาณการใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก
จากนั้นในเวลา 11:30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจหลักศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอบ้านโพธิ์ บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ โดยมี นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พลตำรวจตรี นัทวุฒิ สุวรรณละออง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา นายวิจารณ์ เหล่าธรรมยิ่งยง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา นายอดิเรก แตงทอง ขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรานายอนุชา เรืองอมรวิวัฒน์ นายอำเภอบ้านโพธิ์ พันตำรวจเอก จิรวัฒน์ ยอดกระโหม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ นายมหัตถ์ มงคล จ่าจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สารวัตรกำนัน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนจิตอาสา รับการตรวจเยี่ยม
“ขอให้ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กฎหมายจราจร กฎหมายว่าด้วยเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ อย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมการใช้กลไก “ด่านชุมชน” ในการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปราม และตักเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนพื้นที่ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ในถนนสายรองและถนนในชุมชน โดยเน้นลดพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุในทุกเทศกาล รวมทั้งรณรงค์สร้างกระแสการรับรู้และสร้างความปลอดภัยทางถนน เน้นสร้างบรรทัดฐานทางสังคมหรือปทัสถาน (Norms) โดยเฉพาะผู้ขับขี่ให้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการขับรถที่ไม่มีวินัยและไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนที่ถูกต้อง” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
ด้าน นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยศูนย์ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ได้บูรณาการและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทุกอำเภอ ดำเนินมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ตามนโยบายของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 โดยจากการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 11 – 13 เมษายน 2565 ในพื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสะสมรวม 3 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บสะสม 4 คน (ชาย 3 คน และหญิง 1 คน) อำเภอที่เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอบางปะกง และอำเภอราชสาส์น เกิดอุบัติเหตุ 8 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 9 คน สำหรับการตั้งจุดตรวจ/จุดบริการ แบ่งเป็นจุดตรวจหลักในพื้นที่ 11 อำเภอ รวม 22 จุด ดำเนินการโดยศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ จุดตรวจรอง ดำเนินการโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 96 จุด และด่านชุมชน ดำเนินการโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน จำนวน 56 จุด โดยการกระทำความผิดส่วนใหญ่พบว่า เป็นการขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถย้อนศร และแซงในที่คับขัน โดยจังหวัดฉะเชิงเทราจะได้กำชับให้ทุกอำเภอได้เตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด – 19 ในช่วงที่พี่น้องประชาชนจะเดินทางกลับจากเยี่ยมเยียนครอบครัว และท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ตามนโยบายของท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยเน้นการเรียกตรวจและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเส้นทางเลี่ยง ทางลัด และทางเชื่อมต่อสู่ถนนสายหลักในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนทางตรงวิ่งสวนเลนและไม่มีเกาะกลาง เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการใช้กลไกศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สแตนบายมอนิเตอร์ติดตามความปลอดภัย พร้อมจัดตั้งด่านอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน จุดบริการตรวจ ATK เพื่อหาเชื้อโควิด-19 ให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ทั้งบนเส้นทางหลักและเส้นทางรองทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2565 ที่กำลังจะถึงนี้ จะมีพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปท่องเที่ยวทัศนาจรกับครอบครัว ทยอยเดินทางกลับจากการพักผ่อนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดต่อเนื่อง และจะทำให้มีปริมาณรถบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก จึงได้กำชับให้ทุกจังหวัด อำเภอ เตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่กำลังจะเดินทางกลับจากภูมิลำเนาหรือกลับจากท่องเที่ยว ต้องตรวจเช็คสภาพรถให้มีความพร้อมใช้งาน และเตรียมความพร้อมด้านร่างกายในการขับรถเดินทางไกล หากพบว่าตนมีอาการง่วงนอน หรือในระหว่างเดินทางรู้สึกไม่สบาย สามารถแวะพัก ณ จุดบริการอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ทุกเส้นทางทั่วประเทศ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน ครอบครัว รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น และหากพี่น้องประชาชนต้องการสอบถามเส้นทางในพื้นที่จังหวัด หรือแจ้งเรื่องด่วนเพื่อขอรับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูล และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการช่วยเหลือโดยเร็วต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]