ปลัด มท.สั่งทุกพื้นที่ทำสงครามกับยาเสพติด พบเบาะเเสโทร.1567

กรุงเทพฯ 9 ต.ค. – ทุกพื้นที่สนองนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด ปมท.ย้ำเร่งขยายผล หากพบเห็นเบาะเเสให้โทรสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ทันที


วันนี้ (9 ต.ค.65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้เเจ้งให้ทุกจังหวัดเร่งขยายผลและเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันเเละเเก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนร่วมเป็นพันธมิตรของฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าระวังเเละช่วยเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเบาะเเส โดยสามารถเเจ้งเบาะเเส หรือร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือโทรศัพท์สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ทันทีที่พบเห็น หรือทราบเบาะเเส

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า วันนี้ได้รับแจ้งกรณีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดในพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เเละพี่น้องประชาชนในการเเจ้งเบาะเเส รายละเอียดดังนี้


  1. จ.มหาสารคาม ศป.ปส.อ.วาปีปทุม โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์​ ผกก.สภ.วาปีปทุม พ.ต.ท.สุนทร ประจักโก รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ต.พิเชฐ​ สีอองโคตร สว.สส. เมื่อวันที่ 8 ต.ค.65 ​เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด​ ปส.สภ.วาปีปทุม ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายสมพงษ์ หรือ ออด อายุ ​41 ปี พร้อม​ด้วยของกลาง​ ยาบ้า​ จำนวน 1,721 เม็ดโทรศัพท์​มือถือ​​ 2 เครื่อง​ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน และวันนี้ (9 ต.ค.65) ​เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ปส. สภ.วาปีปทุม ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายศุภฤกษ์ หรือ เติ้ล อายุ ​37 ปี พร้อม​ด้วยของกลาง​ ยาบ้า จำนวน​ 10,200 เม็ด โทรศัพท์​มือถือ​ 1 เครื่อง​ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน โดยกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ขณะนี้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางและเอกสารประกอบบันทึกการจับกุม นำส่ง​พนักงานสอบสวน สภ.วาปีปทุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
  2. จ.ภูเก็ต ฝ่ายปกครอง เมื่อวันที่ 8 ต.ค.65 โดยนายอัครา สุวัตถิกุล ป้องกันจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมตัวนายพิชัย หรือ นายมุก (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมของกลาง ได้แก่ ธนบัตรรัฐบาลไทย ใบละ 100 บาท จำนวน 2 ใบ ที่ใช้ในการล่อซื้อยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 22 เม็ด ยาไอซ์ รวม 3 ถุง น้ำหนักรวม 1.2 กรัม อาวุธมีดพกสั้น จำนวน 2 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุม ผู้ถูกจับกุมได้พยายามหลบหนีและชักอาวุธมีดเพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ และหลีกหนีจากการจับกุม ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ และได้แจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ 1. มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย/ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ 3. ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และ 4. ข้อหาพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
  3. จ.สุราษฎร์ธานี ฝ่ายปกครอง โดยนายอิสรินทร์ ภคเลิศพิริยะ ปลัดอำเภอ และเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจอำเภอเคียนซา (ฉก.ธารทิพย์) ประกอบด้วย นายวัชรพล กาญจนสุภาภรณ์ กำนัน ต.เคียนซา นายจิตรกรณ์ พุทธิศาวงศ์ กำนัน ต.อรัญคามวารี และสมาชิก อส.อ.เคียนซา ที่ 6 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.416 นำโดย ร.ต.ท.ณัฐชนน ลอยเลื่อน รอง.สว.(ป.) กก.ตชด.41 ร้อย ตชด.ที่ 416 นำกำลังเข้าจับกุมและสืบสวน โดยมีรายละเอียดดังนี้

คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 7 ต.ค.65 เวลาประมาณ 11.30 น. ได้จับกุมนายศรายุทธ หรือ บ่าว อายุ 35 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 257 เม็ด รถเก๋งโตโยต้า วีออส ทะเบียน ขจ 2968 สฎ 1 คัน โดยมีข้อกล่าวหา 1. เสพและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยผิดกฎหมาย 2. จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 2,011 เม็ด ให้แก่นายมิน ลา เทียน หรือ ไข่เต่า (ชาวเมียนมา​) โดยผิดกฎหมาย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเเละควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เคียนซา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ต.ค.65 เวลาประมาณ 00.30 น. จากการสืบสวนขยายผลคดีที่ 1 เจ้าหน้าที่เดินเท้าอำพรางในความมืด ระยะทางประมาณ 2 กม. จนสามารถจับกุมนายมิน ลา เทียน หรือ ไข่เต่า อายุ 34 ปี ในสวนยางพารา ม.4 ต.ตะปาน อ.พุนพิน พร้อมของกลาง จำนวน 2,011 เม็ด อาวุธปืนลูกซองพกสั้นแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 7 นัด แหวนสีเหลืองคล้ายทองคำ น้ำหนัก 7.3 กรัม จำนวน 1 วง (ยึดตาม ป.ยาเสพติด)โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางมะเดื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

  1. จ.สกลนคร ฝ่ายปกครอง โดยนายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอบ้านม่วง ได้มอบหมายให้นายนพพล สอนเคน ปลัดอำเภอฝ่ายบริหารงานปกครอง นายไทยสมุทร จันทร์ทองสุข ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ อส. นายดวงปี โนนทะพิมพ์ กำนัน ต.หนองกวั่ง ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) นำกำลังเข้าจับกุมและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ โดยชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้จัดตั้งจุดตรวจ ในคืนวันที่ 8 ต.ค.65 และออกตรวจตราพื้นที่ พบชายไทย มีพฤติกรรมต้องสงสัย จึงทำการตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 30 เม็ด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปสอบสวน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดรายดังกล่าวเเล้ว พร้อมได้สั่งการให้เร่งขยายผลกับเครือข่ายในพื้นที่แล้ว

ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังการกระทำความผิดทุกรูปแบบ หากสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ให้เร่งทำการขยายผล รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระดมสรรพกำลังในการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในทุกพื้นที่ นอกจากนี้ ขอให้ทุกจังหวัดและอำเภอ รวมถึงภาคีเครือข่าย ช่วยประชาสัมพันธ์ช่องทางการเเจ้งเบาะเเส หรือการร้องเรียนที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หากพบเห็นการกระทำความผิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมอาจก่อให้เกิดภัยแก่สังคม ให้รีบเเจ้งทันที เพื่อจะได้ดำเนินการตามข้อร้องเรียนอย่างเร่งด่วนต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]