ในหลวง-พระราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ จ.สงขลา

ในหลวงพระราชินี

8 ม.ค. – เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ เพื่อสนับสนุนงานวิจัย และนวัตกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจร สูง 14 ชั้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 45,000 ตารางเมตร ก่อสร้างปี 2562 แล้วเสร็จปี 2566 ภายในอาคาร ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนและบริหารวิจัยหลายหน่วยงาน อาทิ ศูนย์วิจัยการแพทย์ปริวรรต เป็นหน่วยงานในการเชื่อมโยงงานวิจัยทางคลินิกและวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มีธนาคาร ชีวภาพ เพื่อจัดเก็บตัวอย่างทางชีวภาพ ได้แก่ ตัวอย่างชิ้นเนื้อ เลือด และสารคัดหลั่งอื่น ๆ ของอาสาสมัครอย่างเป็นระบบ ได้มาตรฐานและถูกต้องตามหลักจริยธรรม สำหรับใช้ในการวิจัยทางการแพทย์ในอนาคต,

ห้องปฏิบัติการกลุ่มวิจัยโรค ติดเชื้อและเชื้อก่อโรคอุบัติใหม่ เพื่อรองรับการศึกษาวิจัยในกลุ่มโรคติดเชื้อ หาแนวทางการรักษา ป้องกัน การพัฒนาวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ ห้องปฏิบัติการวิศวกรรมชีวการแพทย์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ ได้รับการจัดสรรให้เป็นพื้นที่ระบบนิเวศน์วิจัยที่สำคัญสำหรับการวิจัย และการเรียนสอนในระดับปฏิบัติการของหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในโรงเรียนแพทย์ มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมระดับสูง เพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุข ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการวิศวกรรมชีวการแพทย์ในด้านต่าง ๆ

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรในราชอาณาจักรไทย”

นิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินจำนวน 80 ล้านบาท จากการบริจาคของประชาชนในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และรายได้จากการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ให้แก่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์โดยเฉพาะอุปกรณ์การรักษาผู้ป่วยมะเร็ง จำนวน 5 รายการ ได้แก่ เครื่องตรวจอวัยวะด้วยสารรังสีและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัลแบบ 3 มิติ เครื่องเอกซเรย์ทั่วไปแบบดิจิทัล เครื่องอัลตราซาวด์ และเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลแบบเคลื่อนที่ เพื่อรองรับและยกระดับการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในภาคใต้

นิทรรศการผลงานนวัตกรรมเซลล์บำบัด “PSU CD19CAR-T cell” หนึ่งในการวิจัยที่โดดเด่นและเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และโรคแพ้ภูมิตนเองที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบมาตรฐานให้กลับมามีโอกาสหาย หรือทำให้โรคสงบได้นานขึ้น ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้คิดค้นขึ้น โดยการทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีลิมโฟไซต์ มีคุณสมบัติสร้างตัวรับเฉพาะที่สามารถจดจำและกำจัดเซลล์มะเร็งในร่างกายของผู้ป่วยได้เอง ซึ่ง CAR-T cell จะถูกกระตุ้นให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และคงอยู่ได้นานในร่างกายผู้ป่วย ทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้น

ในปี 2567 มีการต่อยอดการรักษาในผู้ป่วย 11 คน พบว่าผู้ป่วยทุกคนมีอัตราการตอบสนองแบบหายขาด และมีผลแทรกซ้อนน้อย การรักษาด้วยวิธีนี้ เป็นการรักษาที่ได้มาตรฐานเทียบเท่าต่างประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ประมาณ 15-16 ล้านบาทต่อคน ทำให้ผู้ป่วยในประเทศไทยไม่สามารถเข้าถึงการรักษาชนิดนี้ได้ การพัฒนา PSU CD19CAR-T cell ในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงความสำเร็จทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของบุคลากรในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอีกด้วย

ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีพันธกิจสนับสนุนและส่งเสริมงานวิจัยทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพที่มีคุณภาพระดับสากล บนพื้นฐานของวัฒนธรรมการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อนำองค์ความรู้มาใช้พัฒนาคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้

ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา

ศาลแขวงสงขลา จัดสร้างขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 ซึ่งมีพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวง โดยจังหวัดสงขลามีศาลแขวง 1 ศาลเปิดทำการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2500 เป็นต้นมา เดิมใช้อาคารที่ทำการศาลจังหวัดสงขลา ถนนปละท่า ตำบลบ่อยยาง อำเภอเมืองสงขลา เป็นอาคารที่ทำการ จนกระทั่งวันที่ 15 มีนาคม 2564 ได้ย้ายที่ทำการมายังอาคารแห่งนี้ บนถนนชลาทัศน์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา เป็นอาคารสูง 4 ชั้น ขนาด 10 บัลลังก์ มีเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยเหมาะสมที่จะใช้เป็นสถานที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรมให้แก่ประชาชน สมแก่เกียรติศักดิ์แห่งสถาบันศาลยุติธรรม ซึ่งใช้อำนาจตุลาการภายใต้พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ทุกประการ ทั้งนี้ มีเขตอำนาจศาลในจังหวัดสงขลา รวม 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอรัตภูมิ อำเภอระโนด อำเภอสทิงพระ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหหนคร อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอนาหม่อม อำเภอบางกล่ำ และอำเภอคลองหอยโข่ง มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญา ซึ่งกฎหมายกำหนดโทษอย่างสูงจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และคดีแพ่ง ซึ่งราคาทรัพย์สินข้อพิพาทหรือจำนวนเงินที่ฟ้องไม่เกิน 300,000 บาท

หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติพระราชกรณียกิจแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปท่าอากาศยานหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร ตลอดเส้นทางมีประชาชนจำนวนมาก เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทส่งเสด็จ. -211 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว

เครื่องบินตกอะแลสกา

หน่วยยามฝั่งสหรัฐ พบเครื่องบินที่สูญหายในรัฐอะแลสกา-พบศพแล้ว 3

หน่วยยามฝั่งสหรัฐในรัฐอะแลสกาพบซากเครื่องบินเล็กที่ลดระดับความสูงอย่างกะทันหันและสูญหายไปเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ขณะนี้สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้ว 3 ราย จากจำนวนผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้งหมด 10 คน