“โรม” จี้เชิญทูต 3 ชาติหารือ​ หลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

รัฐสภา 30 ก.ค.- “โรม” จี้ รัฐบาลเชิญทูต 3 ประเทศ​หารือ​ หลัง “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง​ ชี้​ การนำเสนอข้อมูลข่าวสาร “​รัฐบาล” ช้ากว่าทุกองคาพยพ​ แนะ​ใช้โอกาสนี้ ลุยปราบคอลเซ็นเตอร์​ หวั่นถูกใช้เป็นเครื่องมือ​ บั่นทอนประเทศไทยให้อ่อนแอลง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร​ ให้สัมภาษณ์ถึงความสมเหตุสมผล ของการเจรจาหยุดยิง​ระหว่างไทย-กัมพูชา​ ว่า​ การหยุดยิงและการเจรจา​ ประเทศไทยปฏิเสธไม่ได้​ เพราะจำเป็นจะต้องอาศัยความชอบธรรมในเวทีโลกกับการปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาอย่างมาก​ ดังนั้น​การที่ประเทศไทยไปตกลง ก็มีความจำเป็น​ ด้านหนึ่งเพื่อรักษาชีวิตของทหาร​ ตนเองได้ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์​ ก็พบว่าชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆ​ แม้จะมีการเตรียมความพร้อมซักซ้อมตลอดเวลา แต่พอถึงเหตุการณ์จริง​ ต้องยอมรับว่ามีคนเดือดร้อน​ และหากดูต่อก็จะพบว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง​ ซึ่งการละเมิดนี้ก็มีความสำคัญ ประเทศไทยจำเป็นจะต้องรวบรวมข้อมูล เพื่อนำเสนอต่อมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนหรือชาติต่างๆ​ “กัมพูชาพยายามบอกประเทศต่างๆว่าประเทศไทยละเมิดการหยุดยิง เขาพยายามเอาทูตไปดูพื้นที่ ผมคิดว่าอย่างน้อยที่สุดต้องทำให้โลกเห็นว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดการหยุดยิงก่อน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีความชอบธรรมในเรื่องนี้ต่อไป ถ้าเกิดทำให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทย​ ไม่ได้รังแกกัมพูชา​” […]

นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมรสั่งคอลเซ็นเตอร์ ทำสงคราม IO

ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยความมั่นคงรายงาน นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมร สั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับการหลอกลวงคนไทย มาทำสงคราม IO โจมตีไทยในโซเชียลมีเดีย กว่า 500 ล้านครั้งต่อวัน วอนคนไทยเป็นนักรบไซเบอร์สวนกลับได้ อย่าเคลิ้มตาม IO เขมร มาด่าไทยกันเอง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า พบการโจมตีทางไซเบอร์จากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจากประเทศกัมพูชามายังสื่อต่างๆ ในประเทศไทย เช่น เปิดเป็นบัญชีผู้ใช้งานปลอมเป็นคนไทยนับล้านบัญชี ทั้งในเฟซบุ๊ก IG และ x และเข้าไป กดรีพอร์ตเฟซบุ๊ก ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลไทย ด่าทอ กองทัพไทย และรัฐบาลเป็นจำนวนมาก และโจมตีด้วย DDos Attack ถึงกว่า 500 ล้านครั้ง ภายในเวลา 24 ชั่วโมง  ทั้งนี้พบว่า […]

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปตสาย 2 ปลอมเป็น ตร.หลอกโอนเงิน

23 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปตสาย 2 ปลอมเป็น ตร.มุกดาหาร หลอกโอนเงิน เผยเคยได้ค่าคอมมิชชั่นสูงถึงหลักแสน ส่วนอีกคดีเครือข่ายอ้างการไฟฟ้าหลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน เสียหายกว่า 2.4 หมื่นบาท พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกหลอกลวงให้ลงทุนคริปโทเคอเรนซี เสียหายเงิน 308,204,326.50 บาท จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่มีฐานที่ตั้งปฏิบัติการอยู่ที่ภูลิคาสิโน ประเทศกัมพูชา และมีการหลอกลวงหลายประเภท เช่น คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเงินของเหยื่อไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา หลอกลวงให้ลงทุน และหลอกลวงให้เกิดความชอบความรัก โดยคนร้ายที่หลอกสำเร็จจะได้ค่าคอมมิชชั่นสูงถึงหลักแสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลจนทราบแผนผังองค์กรของผู้ประทำผิดที่เชื่อมโยงกับคดีหลอกลวงอื่นอีกหลายคดีที่ใช้กาสิโนดังกล่าว เป็นที่ตั้งในการปฏิบัติการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานชอศาลออกหมายจับ นายรณชัย อายุ 31 ปี ผู้ทำหน้าที่รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร (สายที่ 2) ในข้อหา “ร่วมกันอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” เบื้องต้นเจ้าตัวรับว่า เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 […]

สว.เปรมศักดิ์ จี้กระทรวงดีอี เร่งจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

รัฐสภา 21 ก.ค.-สว.เปรมศักดิ์ จี้กระทรวงดีอี เร่งจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนัน-เว็บโป๊ ให้สิ้นซาก หลัง พ.ร.ก.ปราบคอลเซ็นเตอร์มีผลบังคับใช้ รมว.ดีอีรับปากตามจับ “ก๊ก อาน” และจัดการแฟลตฟอร์ม FB ต้นตอหลอกลวงในต่างประเทศ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ยื่นกระทู้ถามนายประเสริฐ จันทรรวงทอง  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังค เกี่ยวกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า รัฐบาล พยายามแก้ไขปัญหานี้โดยได้ออกพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2568 เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาประชาชนถูกหลอกลวง แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีวิธีการที่ศรีธนญชัยเรียกพี่ทำทุกวิถีทางหลอกเอาเงินจากกระเป๋าประชาชน แม้มีการเตือนให้คนมีสติก่อนจะถูกหลอก แต่ก่อนจะมีสติสตางค์หมดแล้ว นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลออกพระราชกำหนด โดยเฉพาะให้บริษัทมือถือได้มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายของประชาชน เมื่อกำหนดโทษมากขึ้นมีเครื่องมือในการดูแลประชาชนมากขึ้น แต่ทำไมยังมีปัญหาประชาชนถูกหลอก แสดงว่ากฎหมายมีปัญหาหรือไม่ หน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่ใช้ศักยภาพตามกฎหมายอย่างเต็มศักยภาพหรือไม่ จะทำอย่างไร เมื่อรัฐบาลมีเครื่องมือแล้ว จะนำเครื่องมือไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก้ปัญหาได้เต็มศักยภาพ จึงขอถามว่า รัฐบาลมีแผนงานและการดำเนินงานอย่างไร รวมถึงการตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ตั้งแล้วทำงานได้จริงหรือไม่ มีปัญหาอุปสรรคระหว่างหน่วยงานหรือไม่ เพราะปัญหาสำคัญของราชการไทยคือ […]

เตือนภัยแก๊งคอลฯ อ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อ-หลอกโอนเงิน

ทำเนียบ 18 ก.ค.- “จิรายุ” เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดเพจแอบอ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อฟรี หลอกโอนเงิน ย้ำอย่าติดต่อหรือโอนเงินผ่านทางออนไลน์เด็ดขาด มอบตำรวจสืบจับทันที นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านรายการ “เสียงจากใจไทยคู่ฟ้า” ว่าปัจจุบันมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ปรับรูปแบบการหลอกลวงใหม่ โดยที่ผ่านมามักจะใช้ช่องทางผ่านการโทรศัพท์หาเหยื่อโดยอ้างว่าเป็นตำรวจบ้าง เป็น หน่วยงานราชการสำคัญบ้าง อ้างว่ามีไปรษณีย์ตกค้างบ้าง รวมทั้งการส่งเอกสารหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสังคมไทยเริ่มคุ้นชินแล้ว ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยปัจจุบันพบว่ามีการหลอกลวงโดยใช้แพลตฟอร์ม Facebook เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดเพจแอบอ้างเป็น มูลนิธิหรือสำนักงานทนายสาธารณะที่ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือ ศูนย์ช่วยเหลือการถูกหลอกลวง โดยปัจจุบันพบว่าในแพลตฟอร์ม Facebook มีชื่อว่า “สำนักงานช่วยเหลือเหยื่อคดีทางออนไลน์” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเพื่อหลอกลวงซ้ำกับคนที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีต่าง ๆ หรือกรณีที่ซื้อสินค้าไม่ได้รับสินค้าหรือสินค้าไม่ตรงปกเป็นจำนวนมาก “กระบวนการเหล่านี้จะเปิด Facebook แฟนเพจและขึ้นหน้าเพจว่าเป็นองค์การไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่โดนหลอกลวงทางออนไลน์โดยจะให้แอด LINE กับทนายความ โดยระบุว่าจะมีทีมทนายให้การช่วยเหลือเมื่อขบวนการมิจฉาชีพได้รับเรื่องจากผู้ที่เป็นเหยื่อก็จะส่งต่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่ปลอมตัวเป็นตำรวจจากหลายหน่วยงาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีการส่งบัตรข้าราชการตำรวจให้เหยื่อได้หลงเชื่อ จากนั้นจะทำงานเป็นทีมเพื่อหลอกลวงให้ผู้ที่โชคร้ายอยู่แล้วต้องโชคร้ายซ้ำสอง โดยคณะทำงานได้ ตรวจสอบบัตรประจำตัวตำรวจดังกล่าวไม่ปรากฏว่าเป็นตำรวจจริง และได้ตรวจสอบพบว่าชื่อ ทนายความดังกล่าวไม่ปรากฏอยู่ในสารบบของทะเบียนทนายความ” จิรายุ กล่าว นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้คณะทำงานได้ส่งเรื่องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบและจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้อยู่ ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อในกระบวนการหลอกลวงรูปแบบต่าง […]

ตร.เล็งออกหมายจับเพิ่มเครือข่าย “ก๊กอาน”

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์จ่อออกหมายจับเพิ่มเครือข่ายก๊กอาน ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เร่งตรวจสอบ “เชอรี่” ลูกสาวก๊กอาน มีบทบาทบริหารหรืออำพรางเส้นทางการเงินในไทยหรือไม่ พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติว่า ขณะนี้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนพบว่ามีผู้กระทำความผิดมากกว่าที่ศาลอนุมัติหมายจับไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการจัดการระบบบัญชีม้าและขบวนการฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ รวมถึงเร่งตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หากพบมีบุคคลใดเกี่ยวข้อง ทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติ จะมีการดำเนินคดีออกหมายจับตามกฎหมายทันที รวมถึงหากพบพฤติการณ์ฟอกเงินหรือมีทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด และยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมาย ส่วนบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึง “เชอรี่” ลูกสาวของก๊กอาน ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเชื่อมโยงว่า มีบทบาทในการบริหารหรืออำพรางเส้นทางการเงินในไทยหรือไม่ ส่วนตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของก๊กอานนั้น ขณะนี้มีข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการดำเนินการออกหมายแดงหรือหมายจับผ่านตำรวจสากลหรือ Interpol ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ประเทศในเครือข่ายอินเตอร์โพล 196 ประเทศสามารถจับกุมได้ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีทั้งชาวไทยและกัมพูชาที่ร่วมกันกระทำผิด ซึ่งอาจต้องประสานหน่วยงานในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติมเพื่อร่วมดำเนินคดีและยึดทรัพย์ร่วมกัน- -สำนักข่าวไทย

เร่งล่าแก๊งคอลฯ หลอก “อั้ม” ช่างแต่งหน้า

14 ก.ค.- ผบช.ไซเบอร์ สั่งเร่งหาผู้เกี่ยวข้องแก๊งคอลฯ หลอก “อั้ม” ช่างแต่งหน้าเวทีประกวด จนต้องจบชีวิตจากความเครียด จากกรณีที่นายพิชญ์ศุธางศุ์ หรืออั้ม อายุ 38 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ช่างแต่งหน้าชื่อดังให้กับเวทีประกวดมิสแกรนด์และเวทีประกวดอื่นๆอีกหลายเวที ต้องจบชีวิตลงจากความเครียด หลังมีคนร้ายใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “บจก.ทรัพย์โพศาล” ติดต่อมาชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับร่วมอุดหนุนสินค้า จึงโอนเงินเข้าร่วมลงทุนหลายครั้งสูญเงินไปราว 50,000 บาท ก่อนรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย เมื่อวันที่ 6 ก.ค.68 กระทั่งมาก่อเหตุสลดจากความเครียดที่ถูกหลอก เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากพฤติการณ์ของคนร้ายน่าจะเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เข้ามาหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุน เชื่อว่ามีเหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกอีกหลายราย เร่งติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนี้ นอกจากนี้ สั่งการให้ พลตำรวจตรีศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 ไปตรวจสอบกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เจ้าของคดี ซึ่งได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่าดำเนินการเรื่องนี้ไปอย่างไรบ้าง และได้นำเรื่องลงในระบบไทยโปลิศออนไลน์แล้วหรือไม่ เนื่องจากในคดีนี้เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งตำรวจไซเบอร์จะนำข้อมูลมาช่วยกันเพื่อเร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด -สำนักข่าวไทย

สว.นพดล เตรียมเสนอญัตติ ร่วมแก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์

รัฐสภา 12 ก.ค.-สว.นพดล เตรียมเสนอญัตติ ร่วมแก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังกลไกรัฐจัดการไม่ทันท่วงที ก่อความเสียหายวันละ 100 ล้าน ขณะที่ 6 เดือนทะลุหมื่นกว่าล้าน แนะหากเอาจริงเอาจังแก้ไม่ยาก บอกง่ายกว่า ครม.ชุดที่แล้ว นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะผู้จะเสนอญัตติตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน ที่จะพิจารณาในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 15 ก.ค. เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นปัญหามานานมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะเรื่องปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนเป็นคนพูดในวุฒิสภาเป็นคนแรกๆ ซึ่งปัญหานี้รัฐบาลก็ดำเนินการมาตลอด และถึงแม้จะมีพระราชกำหนด ไซเบอร์ (พ.ร.ก.) ฉบับใหม่แก้ปัญหาบังคับใช้มาหลายเดือนแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ลดลงเท่าที่ควร หรือยังไม่ลดลงแบบมีนัยยะสำคัญ จึงคิดว่าวุฒิสภาควรเข้ามามีส่วนในการเข้ามาศึกษาและเสนอแนะ เพราะวันหนึ่งเราเสียเงินกับเรื่องนี้ร่วม 100 ล้านบาทต่อวัน ถือว่าเยอะมาก ปีหนึ่งตก 2-3 หมื่นล้านบาท เราสามารถอำนวยประโยชน์ได้อย่างมากมาย สว.เราได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงเสนอญัตติขึ้น นายนพดล กล่าวย้ำว่า หากเราเอาจริงเอาจังบังคับใช้กฎหมาย มันก็ไม่ยาก เพราะผู้ประกอบการตามแนวชายแดนก็เป็นคนไทยเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนบ้านใช้สัญญาณต่างๆของประเทศไทยแล้วกลับมาทำร้ายประเทศไทยเอง เมื่อถามว่ามองว่าในช่วงที่รัฐบาลสั่นคลอนแบบนี้ […]

ตร.ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ “I2LAI” ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

10 ก.ค.- ตร. เผยสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านยังน่าห่วง พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ “I2LAI” ผนึกกำลังประชาคมโลกปราบปราม ตั้งเป้าเห็นผลใน 3 เดือน เร่งไล่ล่าเครือข่าย “ก๊ก อาน” วันนี้ (10 กรกฎาคม) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ UNODC ต่อต้านอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ เปิดเผยสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังคงปักหลักในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชา เมียนมา และลาว โดยใช้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเดินทางผ่าน เพื่อลักลอบข้ามแดนไปทำงานหรือหลอกลวงทั้งคนไทยและชาวต่างชาติให้เข้าไปทำงานในแก๊งเหล่านี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่า จากมาตรการตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมันในเมียนมา ได้ส่งผลให้มีการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งใหญ่ในเขตเมืองชเวโก๊กโก๋และเคเคพาร์ค ซึ่งตรวจพบผู้เสียหายถึง 36 สัญชาติ รวม 8,893 ราย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลบซ่อนอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเมียวดี สำหรับประเทศกัมพูชา พบการขยายตัวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างมากถึง 52 จุด ใน 10 จังหวัด […]

ย้ำไทยยังคงมาตรการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ทำเนียบ 10 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล ย้ำ ไทยยังคงมาตรการตัดวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลัง ออกหมายจับ “ก๊ก อาน” พร้อมเดินหน้าประสานงานกับทั่วโลกอย่างเข้มข้น ตั้งเป้าหมายจัดการวงการต้มตุ๋นระดับโลกให้สิ้นซาก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลรับทราบรายงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ดำเนินการเข้มข้นในการสืบสวนสอบสวน และจับกลุ่มกลุ่มคอลเซ็นเตอร์และผู้อยู่เบื้องหลังอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด มีการออกหมายจับ “ก๊ก อาน” เจ้าพ่อบ่อนปอยเปต กัมพูชาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาณาจักรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยและคนต่างชาติไปทั่วโลก จากการรายงานทราบว่า ตำรวจได้บุกค้น 19 จุดใน 3 จังหวัด กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และชลบุรี นำหมายค้นของศาลอาญาและอนุมัติหมายจับ MR.Kok An หรือ “ก๊ก อาน” สัญชาติกัมพูชา เจ้าของเครือข่าย crown casino resort ตึก 25 ชั้น, ตึก 18 ชั้น และตึก […]

ตร.ไซเบอร์-ปปง. จ่อลุยยึดทรัพย์เครือ “ก๊กอาน” กว่าพันล้าน

บช.สอท. 9 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ หารือร่วมกับ ปปง. เตรียมลุยยึดทรัพย์เครือ “ก๊กอาน” กว่าพันล้านบาท เอี่ยวขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พร้อมเร่งทำสำนวนส่งอัยการ และเตรียมประสานขอออกหมายแดงให้เร็วที่สุด กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ประชุมร่วมกับนายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงเปิดเส้นทางการเงินของ “ก๊กอาน” เจ้าของตึกกาสิโนในปอยเปต และเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าวันนี้ได้ประชุมร่วมกับ ผอ.กองกฎหมาย ปปง. เนื่องจากพบว่าก๊กอาน มีความเชื่อมโยงกับคดีของนางสาวชาลอต นางแบบชื่อดัง และยังพบคดีอื่นๆ อีก 3 คดี ที่มีความเชื่อมโยงกัน จึงเป็นหลักฐานให้นำมาสู่การออกหมายจับในประเทศไทย ในข้อหาเป็นผู้มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานประกอบในสำนวน หากเสร็จสิ้นแล้วจะส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา เมื่อพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลแล้วจึงจะสามารถประสานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นเรื่องให้องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพลออกหมายแดง ส่วนการประชุมร่วมกับ ปปง. ในวันนี้ ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเส้นทางการเงินของก๊กอานในอดีต ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลในประเทศไทยหรือกัมพูชาหรือไม่ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยเชื่อว่าก๊กอานได้ถือครองทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศอีกจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นประเทศที่อยู่ในความร่วมมือของอินเตอร์โพลก็มีแนวโน้มที่จะขอความร่วมมือในการตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน ส่วนจะมีคนไทยหรือใครที่รับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังก็ต้องขยายผลเพิ่มเติม ด้านนายสุทธิศักดิ์ สุมน […]

“เท้ง” จี้รัฐบาลแจงให้ชัดขุดหลุมฝังเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

รัฐสภา 9 ก.ค.-“เท้ง” ผสมโรง “อนุทิน” เผยไปจีนมา เหตุนักท่องเที่ยวลด ไม่มาไทย ขาดความเชื่อมั่นกระบวนการจัดการแก๊งคอลฯ จี้รัฐบาลแจงให้ชัด ขุดหลุมฝังร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่นำกลับมาในสภาอีก อุบใช้เกมล่มสภาวันนี้หรือไม่ บอกรอดูดีกว่า พร้อมโน้มน้าวพรรคอื่น เปิดช่องให้ร่างนิรโทษ ปชน. บอกเป็นจุดกึ่งกลางในการหาทางออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงจุดยืนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต่อการประชุมสภาวันนี้ ว่า สำหรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติถอนนั้น ใจความสำคัญคือเหตุผลของการถอนร่าง หากอ้างอิงจากมติ ครม. ก็มีการอ้างว่า เป็นเพราะ ครม.มีการเปลี่ยนเยอะ จึงต้องทบทวนกฎหมายใหม่ ขณะเดียวกัน การให้สัมภาษณ์ของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ก็ระบุในเชิงว่า การที่รัฐบาลจะเดินหน้ากฎหมายนี้ หรือมีความเชื่อมั่นต่อเมื่อรู้ว่ามีเสียงข้างมาก ดังนั้น ตนเชื่อว่า สิ่งที่ประชาชนอยากได้ยินมากกว่า คือ เหตุผลที่รัฐบาลจะเสนอถอนร่าง ว่าเป็นไปตามเสียงเรียกร้องของประชาชน หรือข้อห่วงใยของพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลเดินหน้ากฎหมายโดยขาดความรอบคอบ ถ้าเหตุให้เหตุผลที่ดีเพียงพอในสภา […]

1 2 3 34
...