ตร.ไซเบอร์ ขอชาวโซเชียล ไม่แชร์-ไม่โพสต์-ไม่ส่งต่อข่าวปลอม

25 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ ขอความร่วมมือชาวโซเชียล ไม่แชร์ ไม่โพสต์ ไม่ส่งต่อข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความมั่นคง กองทัพ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และข้าราชการตำรวจในสังกัด แถลงการณ์ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนประเทศไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะผู้ที่เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าดังกล่าว และขอส่งกำลังใจและความห่วงใยไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกนายตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างประเทศในห้วงที่ผ่านมา โดยในช่วงเวลาที่สถานการณ์มีความอ่อนไหว ตำรวจไซเบอร์พบเบาะแสว่าได้มีการเผยแพร่ข่าวปลอม หรือ Fake News, คลิปบิดเบือน และข้อความปลุกปั่นในโซเชียลมีเดีย ที่อาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคม รวมทั้งพบการโพสต์ภาพหรือวิดีโอคลิปแสดงความรุนแรงต่อคนต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินด้วยอาชีพสุจริตในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอความร่วมมือผู้ใช้บัญชีโซเชียล ดังนี้ โดยเฉพาะการโพสต์ปลุกระดมจะไปทำร้ายชาวกัมพูชาในประเทศ หรือโพสต์ภาพการบุกไปทำร้ายชาวกัมพูชา ล้วนแล้วแต่เป็นการทำผิดกฎหมายบ้านเมืองทั้งสิ้น เราควรกระทำตัวให้เป็นคนมีอารยะ รู้จักแยกแยะ หากพบมีการทำผิดในลักษณะดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน สิ่งที่ประชาชนควรทำคือ-ติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สื่อกระแสหลัก และหน่วยงานภาครัฐ-ใช้วิจารณญาณก่อนแชร์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สถานการณ์อ่อนไหว-แจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือโทรสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง. -412-สำนักข่าวไทย

เร่งสอบเส้นเงินสีกากอล์ฟเอี่ยวเว็บพนัน ยังไม่พบพระเชื่อมโยง

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์เร่งสอบเส้นทางเงินสีกากอล์ฟเอี่ยวเว็บพนัน เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับพระที่มีความสัมพันธ์ด้วย พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนเส้นทางการเงินที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ของสีกากอล์ฟ ว่า หลังจากสีกากอล์ฟให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ สอท.1 เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ เบื้องต้นพบว่า สีกากอล์ฟมีการเล่นพนันมากสุดถึง 500,000 บาท และเคยเสียพนันสูงสุดถึง 10 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับสีกากอล์ฟ อยู่ในระหว่างการขอ Statement จากธนาคาร เพื่อมาวิเคราะห์ตรวจสอบว่า มีการโอนเงินให้เว็บพนันจริงหรือไม่ หากพบว่ามีเส้นทางการเงินโอนไปเว็บพนันจริง จะเรียกสีกากอล์ฟมาแจ้งข้อหาดำเนินคดีเรื่องเล่นการพนันต่อไป ซึ่งจะดำเนินคดีแบบต่างกรรมต่างวาระ ส่วนประเด็นเรื่องเส้นทางการเงิน การทำธุรกรรม ระหว่างสีกากอล์ฟกับพระเถระที่มีความสัมพันธ์ด้วยนั้น ทาง บก.ปปป. เป็นผู้ตรวจสอบหลัก แต่ทางตำรวจไซเบอร์จะร่วมตรวจสอบด้วยว่า มีเส้นทางการเงินไหนที่เชื่อมโยงถึงเว็บพนันหรือไม่ หากพบจะดำเนินคดีข้อหาเล่นการพนันเช่นเดียวกัน แต่เบื้องต้นตอนนี้ยังไม่พบว่า มีพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องรูปใดเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ -สำนักข่าวไทย

ตร.เล็งออกหมายจับเพิ่มเครือข่าย “ก๊กอาน”

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์จ่อออกหมายจับเพิ่มเครือข่ายก๊กอาน ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เร่งตรวจสอบ “เชอรี่” ลูกสาวก๊กอาน มีบทบาทบริหารหรืออำพรางเส้นทางการเงินในไทยหรือไม่ พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติว่า ขณะนี้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนพบว่ามีผู้กระทำความผิดมากกว่าที่ศาลอนุมัติหมายจับไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการจัดการระบบบัญชีม้าและขบวนการฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ รวมถึงเร่งตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หากพบมีบุคคลใดเกี่ยวข้อง ทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติ จะมีการดำเนินคดีออกหมายจับตามกฎหมายทันที รวมถึงหากพบพฤติการณ์ฟอกเงินหรือมีทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด และยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมาย ส่วนบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึง “เชอรี่” ลูกสาวของก๊กอาน ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเชื่อมโยงว่า มีบทบาทในการบริหารหรืออำพรางเส้นทางการเงินในไทยหรือไม่ ส่วนตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของก๊กอานนั้น ขณะนี้มีข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการดำเนินการออกหมายแดงหรือหมายจับผ่านตำรวจสากลหรือ Interpol ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ประเทศในเครือข่ายอินเตอร์โพล 196 ประเทศสามารถจับกุมได้ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีทั้งชาวไทยและกัมพูชาที่ร่วมกันกระทำผิด ซึ่งอาจต้องประสานหน่วยงานในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติมเพื่อร่วมดำเนินคดีและยึดทรัพย์ร่วมกัน- -สำนักข่าวไทย

เร่งล่าแก๊งคอลฯ หลอก “อั้ม” ช่างแต่งหน้า

14 ก.ค.- ผบช.ไซเบอร์ สั่งเร่งหาผู้เกี่ยวข้องแก๊งคอลฯ หลอก “อั้ม” ช่างแต่งหน้าเวทีประกวด จนต้องจบชีวิตจากความเครียด จากกรณีที่นายพิชญ์ศุธางศุ์ หรืออั้ม อายุ 38 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ช่างแต่งหน้าชื่อดังให้กับเวทีประกวดมิสแกรนด์และเวทีประกวดอื่นๆอีกหลายเวที ต้องจบชีวิตลงจากความเครียด หลังมีคนร้ายใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “บจก.ทรัพย์โพศาล” ติดต่อมาชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับร่วมอุดหนุนสินค้า จึงโอนเงินเข้าร่วมลงทุนหลายครั้งสูญเงินไปราว 50,000 บาท ก่อนรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย เมื่อวันที่ 6 ก.ค.68 กระทั่งมาก่อเหตุสลดจากความเครียดที่ถูกหลอก เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากพฤติการณ์ของคนร้ายน่าจะเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เข้ามาหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุน เชื่อว่ามีเหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกอีกหลายราย เร่งติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนี้ นอกจากนี้ สั่งการให้ พลตำรวจตรีศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 ไปตรวจสอบกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เจ้าของคดี ซึ่งได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่าดำเนินการเรื่องนี้ไปอย่างไรบ้าง และได้นำเรื่องลงในระบบไทยโปลิศออนไลน์แล้วหรือไม่ เนื่องจากในคดีนี้เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งตำรวจไซเบอร์จะนำข้อมูลมาช่วยกันเพื่อเร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด -สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์หอบสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” มอบอัยการสูงสุด

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์หอบสำนวน 50 หน้า ส่งมอบให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ผิดม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขณะที่โฆษกอัยการรับต้องละเอียดรอบคอบ เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งฟ้องผู้นำประเทศมาก่อน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงฮุนเซน ประมาณ 50 หน้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานอัยการสูงสุด จากกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชี เฟซบุ๊กชื่อ “Samdech Hun Sen of Cambodia” ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอน […]

ตร.ไซเบอร์ชง อสส.เอาผิด “ฮุนเซน” ปมคลิปเสียง 14 ก.ค.นี้

10 ก.ค.- ตร.ไซเบอร์ เดินหน้าคดีคลิปเสียงสนทนา “แพทองธาร-ฮุนเซน” เตรียมเสนออัยการสูงสุดเอาผิด “ฮุนเซน” ตามกฎหมายความมั่นคง 14 ก.ค.นี้ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (สอท.1) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความต่อกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เพื่อดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ความยาว 17.6 วินาที ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับ สมเด็จฮุน เซน ซึ่งมีเนื้อหาถูกตีความว่าสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนชาวไทย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ พนักงานสอบสวนตำรวจไซเบอร์ จะเสนอเรื่องไปยังอัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับสมเด็จ ฮุนเซน เนื่องจากเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ว่าด้วยการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ขณะนี้ยังมีผู้ถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว […]

ตร.ไซเบอร์-ปปง. จ่อลุยยึดทรัพย์เครือ “ก๊กอาน” กว่าพันล้าน

บช.สอท. 9 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ หารือร่วมกับ ปปง. เตรียมลุยยึดทรัพย์เครือ “ก๊กอาน” กว่าพันล้านบาท เอี่ยวขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พร้อมเร่งทำสำนวนส่งอัยการ และเตรียมประสานขอออกหมายแดงให้เร็วที่สุด กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ประชุมร่วมกับนายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงเปิดเส้นทางการเงินของ “ก๊กอาน” เจ้าของตึกกาสิโนในปอยเปต และเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าวันนี้ได้ประชุมร่วมกับ ผอ.กองกฎหมาย ปปง. เนื่องจากพบว่าก๊กอาน มีความเชื่อมโยงกับคดีของนางสาวชาลอต นางแบบชื่อดัง และยังพบคดีอื่นๆ อีก 3 คดี ที่มีความเชื่อมโยงกัน จึงเป็นหลักฐานให้นำมาสู่การออกหมายจับในประเทศไทย ในข้อหาเป็นผู้มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานประกอบในสำนวน หากเสร็จสิ้นแล้วจะส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา เมื่อพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลแล้วจึงจะสามารถประสานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นเรื่องให้องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพลออกหมายแดง ส่วนการประชุมร่วมกับ ปปง. ในวันนี้ ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเส้นทางการเงินของก๊กอานในอดีต ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลในประเทศไทยหรือกัมพูชาหรือไม่ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยเชื่อว่าก๊กอานได้ถือครองทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศอีกจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นประเทศที่อยู่ในความร่วมมือของอินเตอร์โพลก็มีแนวโน้มที่จะขอความร่วมมือในการตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน ส่วนจะมีคนไทยหรือใครที่รับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังก็ต้องขยายผลเพิ่มเติม ด้านนายสุทธิศักดิ์ สุมน […]

ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งไทยเทาร่วมผิวสีฉ้อโกงข้ามชาติ

9 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งไทยเทาร่วมผิวสีฉ้อโกงข้ามชาติ ยึดเงินทันคืนเหยื่อบริษัทญี่ปุ่น กว่า 215 ล้านบาท ใหญ่สุดในประวัติการณ์ จากกรณีคดีบริษัทชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นถูกแฮ็กอีเมล และสวมรอยโดเมนอีเมลปลอมตั้งแต่ปี 2567 เพื่อหลอกให้บริษัทเชื่อว่าบัญชีรับเงินได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 บริษัทญี่ปุ่น หลงเชื่อและโอนเงินกว่า 228 ล้านบาท ผ่านระบบ SWIFT มายังบัญชีบริษัทในประเทศไทย หลังการโอนเงิน นายวีรกานต์ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ได้รีบถอนเงินออกจากบัญชีจำนวนรวม 13 ล้านบาท ก่อนที่ทางธนาคารไทยจะตรวจพบความผิดปกติ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เข้าทำการอายัดบัญชีทันที ซึ่งนำไปสู่การสืบสวนขยายผลพบว่าบริษัทคู่ค้าปลอมจดทะเบียนอยู่ในพื้นที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ โดยมีกรรมการ 3 คน คือ นายวีรกานต์ นางสาววิลัยพร และนายอนุชา ซึ่งถูกออกหมายจับและจับกุมได้ในวันที่ 29 เมษายน จากการสืบสวนพบว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือ Mr.Annest Onyebuchi ชาวไนจีเรีย ซึ่งเป็นสามีของนางสาวพิญญานันท์ โดยส่งใบแจ้งหนี้ปลอมผ่านแอปพลิเคชัน WhatsApp เพื่อหลอกบริษัทญี่ปุ่น จากนั้นจึงนำเงินไปฟอกผ่านบริษัทอื่นในไทย ต่อมาในวันที่ 8 […]

ค้นรัง “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “ฮุนเซน”

8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ค้น 19 จุด 3 จังหวัด เครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “สมเด็จฮุน เซน” ตามหมายจับสมคบกันก่ออาชญากรรมข้ามชาติ พัวพันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต กัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ค้นบ้านหรูล่า ผตห.ตามหมายจับกระทำผิดมีส่วนร่วมอาชญากรข้ามชาติ

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านหรู ภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ 15 ผู้ต้องหาตามหมายจับ เป็นระดับตัวการใหญ่ มีส่วนร่วมอาชญากรข้ามชาติ คุมคนในบ้านเข้ม และคนขับรถ แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหา ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำกำลังพร้อมหมายค้น เข้าตรวจสอบ ภายในบ้านหลังหรูหลังหนึ่ง เลขที่ 77 ซอยเฉลิมพระเกียรติ 15 เพื่อติดตามผู้ต้องหา ตามหมายจับ เกี่ยวข้องในการกระทำผิดมีส่วนร่วมอาชญากรข้ามชาติ ที่เชื่อมโยงกับนายก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา สังกัดพรรคเดียวกันกับ ฮุนเซน คาดว่าเป็นบ้านของลูกสาวนาย ก๊ก อาน (เชอรี่) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยการตรวจค้น 1 ใน 19 จุดเป้าหมาย เป็นของเครือข่าย ในกระผิดเกี่ยวกับลักษณะมีส่วนร่วมในอาชญากรข้ามชาติ บ้านหลังนี้คาดว่าเป็นที่ผู้ต้องหามาพักอาศัย ซึ่งเป็นระดับตัวการหลักเกี่ยวกับแก๊งคอลเซนเตอร์ และกระทำความผิดเกี่ยวกับบ่อนกาสิโน จากการตรวจค้น พบหลักฐานเอกสารสำคัญหลายรายการ รถยนต์หรู 2 คัน จอดอยู่ และทรัพย์สินอื่นๆ […]

รวบ 2 คนร้าย แก๊งกองร้อยปอยเปต หลอกเหยื่อสูญกว่า 300 ล้านบาท

กทม. 5 ก.ค.-ตำรวจไซเบอร์ รวบ 2 คนร้าย แก๊งกองร้อยปอยเปต อ้างตัวเป็นผู้กำกับและผู้หมวด หลอกเหยื่อโอนเงินเสียหายกว่า 300 ล้านบาท สารภาพหนีเข้าไทยเพราะกลัวสู้รบชายแดน 13.30.น. ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เข้าจับกุมนายวราเมษ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจับกุมนายสมศักดิ์ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยทั้ง 2 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่เกี่ยวข้องกับขบวนการแกงคอลเซ็นเตอร์ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจากคดีไฮบริด สแกรม ได้แจ้งความผ่านระบบออนไลน์ว่าถูกบุคคลใช้ภาพโปรไฟล์หน้าตาดี เข้ามาพูดคุยจนเกิดความสนิทสนม ก่อนจะชักชวนให้ร่วมลงทุนคริปโตเคอเรนซี่ จึงหลงเชื่อโอนเงินไป 147 ครั้ง จากนั้นพบว่าบัญชีที่โอนไปเป็นบัญชีม้า 79 บัญชี รวมเป็นเงินประมาณ 308 ล้านบาท ตำรวจไซเบอร์จึงได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง 76 คน ซึ่งจับกุมได้แล้ว 46 คน ระหว่างที่ตำรวจขยายผลในคดีดังกล่าวพบหลักฐานว่า ผู้ต้องหาในขบวนการนี้ไปเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่มีชาวจีนเป็นหัวหน้าและมีฐานที่ตั้งอยู่ที่ภูริคาสิโน เมืองปอตเปต ประเทศกัมพูชา และพบพยานหลักฐานว่า การทำงานของขบวนการแก็งคอลเซนเตอร์นี้ จะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา แบ่งออกเป็น 4 […]

ทลายแก๊งกดเงินส่งกลุ่มคอลเซ็นเตอร์จีน ขัดผลประโยชน์ทำข้อมูลรั่ว

บช.สอท. 27 มิ.ย. – ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งกดเงินส่งกลุ่มคอลเซ็นเตอร์จีน หลังขัดผลประโยชน์จนข้อมูลหลุดถึงตำรวจ พบมูลค่าความเสียหายกว่า 24 ล้านบาท พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลปฏิบัติการทลายแก๊งกดเงินส่งกลุ่มจีนเทา หลังทะเลาะแล้วแฉกันเอง สืบเนื่องจากตำรวจสืบทราบว่ามีชายชื่อนายตี๋ ไม่ทราบสัญชาติ อาศัยอยู่ในประเทศลาว สามารถพูดไทยและจีนได้ ติดต่อให้คนไทยกลุ่มหนึ่งฟอกเงิน โดยทำหน้าที่เปิดบัญชีม้ารับโอนเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกนใบหน้า และตระเวนกดเงิน เพื่อส่งต่อให้ผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ แต่ภายหลังเกิดขัดผลประโยชน์กัน จึงทำให้เบาะแสหลุดมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนไทยดังกล่าวพักอาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่ง พื้นที่ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี รวมทั้งพบว่ามีหนึ่งในบัญชีธนาคารของกลุ่มคนดังกล่าวเป็นบัญชีที่ถูกอายัดเกี่ยวกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีผู้เสียหายในไทย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 24 ล้านบาท จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพัก 3 ห้อง ในพื้นที่เป้าหมาย พบนายนันทพงศ์ อายุ 24 ปี, นายพัธกานต์ อายุ 21 ปี, นายธานินทร์ อายุ 21 ปี และนายจิรเดช อายุ 19 ปี […]

1 2 3 26
...