ประมวลเหตุระเบิด 3 จุดยะลา เสียชีวิต 2 เจ็บ 27 ราย

ยะลา 14 ก.ย.-ที่ จ.ยะลา วันนี้เกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 จุด โดยผู้ก่อเหตุเริ่มวางระเบิดที่ อ.กาบัง จ.ยะลา ในช่วงเช้ามืดก่อนเป็นจุดแรก เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบพื้นที่ ต่อมาเกิดระเบิดขึ้นซ้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนบาดเจ็บอีกจำนวนมาก


เหตุการณ์ความรุนแรงที่ จ.ยะลา วันนี้ เริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่เสาไฟฟ้าแรงสูงภายในหมู่บ้านลาเต๊าะ บ้านย่อย และบ้านลาแล ม.5 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา แรงระเบิดส่งผลให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 1 ต้น แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ


พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา จึงได้เตรียมนำเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในช่วงเช้า เพราะหากเข้าพื้นที่ในช่วงมืดค่ำจะไม่ปลอดภัย ตนจึงได้นำกำลังตำรวจชุดอีโอดีภูธรจังหวัดยะลา 3 ชุด โดยมีรถหุ้มเกราะของชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 นำขบวนเดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ เมื่อขบวนรถเจ้าหน้าที่ขับผ่านถนนสาย 4070 ที่บ้านปะแดรู ม.1 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา ได้เกิดระเบิดขึ้น

ในขณะที่ขบวนรถของเจ้าหน้าที่อีโอดีกำลังจะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุจุดแรก โดยได้ขับรถผ่านถนนสายยะลา-กาบังเส้นนี้ และเมื่อมาถึงจุดนี้คนร้ายฝังระเบิดไว้ใต้เสาหิน ได้เกิดระเบิดลูกแรกขึ้น ส่งผลให้รถของเจ้าหน้าที่ทหารพราน 47 ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในขบวนรถ รวมทั้งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาอยู่ในขบวนรถด้วย ได้ลงจากรถเพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และได้ยิงตอบโต้กลุ่มคนร้ายตามยุทธวิธี ซึ่งอาจจะหลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้ จากนั้นผ่านไปราว 20 นาที เกิดระเบิดลูกที่ 2 ขึ้น ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดแรก และระเบิดลูกที่ 2 นี้ได้ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในขบวนรถได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 24 นาย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 นาย


ผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุคือ ส.ต.ธเนศ พุทโธ อายุ 30 ปี เป็นทหารพราน สังกัดหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 47 และ ด.ต.อนิรุทธ จันทะวงษ์ อายุ 40 ปี เป็นตำรวจชุดอีโอดี ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.ธวัช สุนทรพจน์ ผู้กำกับการ สภ.กาบัง จ.ยะลา เผยว่าพบห่อข้าวอยู่ภายในสวนยางพาราไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ จึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะซ่อนตัวอยู่ภายในสวนยางพารา เพื่อรอจังหวะกดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสารเมื่อขบวนรถเจ้าหน้าที่มาถึง เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง