กรมชลฯ เฝ้าระวังลุ่มน้ำยม เสี่ยงอุทกภัยรอบ 2

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – กรมชลประทาน ติดตามสถานการณ์ลุ่มน้ำยมใกล้ชิด หวั่นเกิดอุทกภัยซ้ำรอยในพื้นที่เดิมที่น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมปลายเดือน ส.ค. แต่คาดว่ารุนแรงน้อยกว่า ส่วนเขื่อนเจ้าพระยาทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำตั้งแต่คืนนี้ โดยอาจทยอยปรับเพิ่มจนถึงอัตรา 1,500 ลบ.ม./วินาที


นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยากล่าวว่า เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยมอย่างใกล้ชิดและปรับแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนและน้ำท่าที่เพิ่มขึ้นมากในระยะนี้ โดยวันนี้ระดับน้ำแม่น้ำยมในเขตอำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่น้ำเริ่มล้นตลิ่งเข้าสู่พื้นที่ลุ่มต่ำประมาณ 30 เซนติเมตรแล้ว น้ำจะไหลต่อมายังจังหวัดสุโขทัย โดยจะต้องใช้ประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (บ้านหาดสะพานจันทร์) ที่อำเภอสวรรคโลก ผันเข้าสู่คลองหกบาท คลองยม-น่าน และแม่น้ำยมสายเก่าเพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย ซึ่งรับน้ำได้ไม่เกิน 500 ลบ.ม./วินาที เท่านั้น

ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่า ที่ลุ่มน้ำยมจะเกิดอุทกภัยเป็นครั้งที่ 2 ในพื้นที่ลุ่มต่ำที่เคยน้ำท่วมเมื่อปลายเดือนสิงหาคม แต่ระดับน้ำจะไม่สูงเท่า จึงได้ให้โครงการชลประทานในพื้นที่แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนให้เฝ้าระวังแล้ว


น้ำแม่น้ำยมจะไหลมาสมทบกับน้ำแม่น้ำปิง วัง และน่าน ที่จังหวัดนครสวรรค์ ขณะนี้ปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ มีแนวโน้มสูงขึ้น ก่อนหน้านี้กรมชลประทานได้พร่องน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาไว้รองรับฝนระลอกใหม่ เมื่อแนวโน้มน้ำที่จะไหลมายังเขื่อนเพิ่มขึ้นจึงจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจากอัตรา 1,500 ลบ.ม./วินาทีเป็น 1,200 ลบ.ม./วินาที ในคืนนี้ จากนั้นวันพรุ่งนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,350 ลบ.ม./วินาที แล้วอาจปรับเพิ่มถึง 1,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 60 เซนติเมตรถึง 1 เมตร

ทั้งนี้ จะต้องติดตามปริมาณฝนที่จะตกในภาคกลางร่วมด้วย แล้วพิจารณาว่าจะมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มเกินกว่า 1,500 ลบ.ม./วินาที หรือไม่ แต่กรมชลประทานจะพยายามคงอัตราการระบายที่ 1,500 ลบ.ม./วินาที ไว้ โดยเป็นอัตราที่เคยระบายสูงสุดเมื่อต้นเดือนกันยายนและจะไม่กระทบต่อพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำในจังหวัดอ่างทองและพระนครศรีอยุธยา กรมชลประทานได้แจ้งต่อกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้เฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนแล้ว. -512-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน